สัปดาห์นี้ เรามาพบกับผลงานจากศิลปินไทย นที อุตฤทธิ์ ศิลปินร่วมสมัยระดับแนวหน้า ผู้มีชื่อเสียงโดดเด่นเป็นที่รู้จักทั้งในแวดวงศิลปะเมืองไทยและในระดับสากล กับผลงาน The Last Description of the Old Romantic ในงานประมูล The Iconic Treasure ของ Bangkok Art Auction ที่ผ่านมา
ผลงานของนทีถูกสะสมอยู่ในคอลเลกชันของพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ชื่อดัง ทั้งในเอเชีย,เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยุโรป และมีนิทรรศการจัดแสดงผลงานอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศมาตั้งแต่ปี 1994 จนถึงปัจจุบัน ถือเป็นหนึ่งในศิลปินที่สร้างความเปลี่ยนแปลงและความก้าวหน้าต่อวงการศิลปะร่วมสมัยในการเข้าสู่ระบบการทำงานร่วมกับแกลลอรี่อย่าง ริชาร์ต โคห์ ไฟน์อาร์ต ผลงานของนที อุตฤทธิ์ ถือเป็นหนึ่งในชิ้นงานที่เข้าร่วมประมูลกับสถาบันประมูลระดับโลกต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง และเป็นที่สนใจของนักสะสมศิลปะมาโดยตลอด สะท้อนให้เห็นว่า ผลงานของนที ได้รับการยอมรับและเป็นที่ต้องการของนักสะสมในหลายๆ ประเทศ
ผลงานของนทีเป็นส่วนผสมระหว่างงานจิตรกรรมคลาสสิกของตะวันตกกับงานจิตรกรรมเหมือนจริงในบริบทของความเป็นไทยแบบร่วมสมัย การนำเสนอภาพวิถีชีวิตของผู้คน ประเด็นปัญหาทางวัฒนธรรม ไปจนถึงการเล่าถึงสถานการณ์ปัจจุบันของประเทศไทยในด้านต่างๆ ผลงานบางชุดนำเสนอเรื่องราวทางศาสนาและแรงบันดาลใจจากความงามที่เกี่ยวเนื่องกับภาพวาดประดับแท่นบูชา บางชุดโดดเด่นที่การวิพากษ์วิจารณ์สังคมสมัยใหม่ในระบอบทุนนิยมและลัทธิอาณานิคม และในนิทรรศการแสดงเดี่ยวครั้งล่าสุดของเขาที่มีชื่อว่า Déjà vu: When the Sun Rises in the West จัดแสดงที่อศิลป์มหาวิทยาลัยศิลปากร นทีถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดของศิลปิน หลอมรวมแนวคิดของโลกตะวันตกและตะวันออกเข้าไว้ด้วยกัน โดยตั้งสมมติฐานถึงการเผชิญหน้ากันระหว่างพระพุทธเจ้ากับอารยธรรมกรีกโบราณ เพื่อสำรวจและตั้งคำถามต่อความสัมพันธ์และความเหลื่อมล้ำระหว่างโลกตะวันตกและตะวันออกที่ได้รับอิทธิพลจากลัทธิอาณานิคม
ผลงานซีรีส์ The Last Description of the Old Romantic นทีได้ตั้งคำถามในความงามกับภาพดอกไม้ในสไตล์เรียลลิสติกที่ถูกเทราดด้วยสีย้อมไม้ โดยใช้ภาพของดอกไม้และภาพหุ่นนิ่งในแบบโบราณเป็นสื่อในการนำเสนอ ซึ่งเป็นรูปแบบที่ศิลปินได้ทำมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ ผลงานชุด Reason and Monster Project ในช่วงปี 2546 ผลงานซีรีส์ The Last Description of the Old Romantic จัดแสดงที่ นำทอง แกลเลอรี เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ถึง 3 ธันวาคม 2548 ซึ่งเป็นซีรีส์ที่ได้รับสนใจอย่างล้นหลามในแวดวงการประมูล และถือเป็นการกลับมาของนที อุตฤทธิ์ในเวทีการประมูลของไทยในรอบกว่าทศวรรษอีกด้วย
ผลงานจากชุด The Last Description of the Old Romantic ถือเป็นผลงานชุดที่ได้รับความนิยมและถูกนำมาประมูลกว่า 17 ครั้ง โดยมีทั้งผลงานที่ถูกประมูลเป็นครั้งแรก และมีผลงานถึง 6 ชิ้น ที่ถูกนำมาประมูลซ้ำจากสถาบันประมูลระดับโลกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น Christie’s หรือ Sotheby’s เป็นต้น
ในปี 2549 ได้มีงานประมูลผลงานจากซีรีสนี้ขึ้น โดย Christie’s บริษัทรับจัดประมูลงานศิลปะชั้นนำระดับโลก โดยราคาประมูลจบลงไปที่ 192,000 เหรียญฮ่องกง (ประมาณ 890,000 บาท) และในปี 2562 Christie’s ได้นำผลงานรูปเดิมนี้ มาประมูลอีกครั้ง โดยราคาประมูลจบนั้นเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดไปถึง 900,000 เหรียญฮ่องกง หรือมากกว่า 5 ล้านบาท
ในปี 2552 ได้มีการนำผลงานจากซีรีส์นี้อีกชิ้นเข้าประมูล แต่เป็นที่น่าเสียดายในการประมูลครั้งนั้นยังไม่มีผู้ให้ความสนใจ ทำให้ผลงานชิ้นดังกล่าวถูกปัดข้ามไป ต่อมาในปี พ.ศ. 2565 ผลงานชิ้นเดียวกันนี้ได้ถูกนำไปจัดประมูลอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้สามารถปิดประมูลไปในมูลค่าสูงเกือบ 4 ล้านบาท
จากผลงานศิลปะทั้งหมดของนที อุตฤทธิ์ ที่อยู่ในตลาดการประมูลทั่วโลก ผลงานที่ถูกประมูลไปในราคาสูงที่สุด เกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2565 โดยผลงานที่ชื่อว่า GOD ถูกสร้างขึ้นในปี 2554 โดยราคาปิดประมูลไปสูงถึงกว่า 18 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นสถิติราคาปิดประมูลที่สูงที่สุดของนที อุตฤทธิ์ ตั้งแต่มีการประมูลจนถึงปัจจุบัน
สำหรับผลงาน The Last Description of the Old Romantic ในงานประมูล The Iconic Treasure ของ Bangkok Art Auction ที่ผ่านมา ถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่มีการจัดประมูลผลงานจากซีรีส์ชุดดอกไม้ อันเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในหมู่นักสะสมและคนรักงานศิลปะ ผลงานดังกล่าวปิดประมูลไปในราคา 6,325,000 บาท เป็นการสร้างปรากฎการณ์อีกครั้งในการประมูลในประเทศไทย และเป็นเครื่องยืนยันเป็นอย่างดีว่าผลงานของนที อุตฤทธิ์ ยังคงเป็นที่ต้องการของเหล่านักสะสมและผู้ชื่นชอบงานของนที อุตฤทธิ์ ให้ได้เก็บสะสมกัน แบบที่ไม่ต้องไปประมูลถึงต่างประเทศ
อ้างอิง
https://www.artprice.com/artist/301095/natee-utarit
https://www.mutualart.com/…/Natee-Utarit/8EEF4B887936572E
http://fineart-magazine.com/deja-vu-natee/