Categories
Tank Happening

เกาะกระแส Art Toy นอก ชิลสะสม เอนจอย buy/sell/talk 

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เราได้พูดถึงอาร์ตทอยของไทยกันไป คราวนี้ไปตะลุยกับอาร์ตทอยนอกเมืองไทยบ้านเฮากันบ้างดีกว่า เลยขอเท้าความเกี่ยวกับ Art Toy ต่างประเทศและเกร็ดความรู้กันสักเล็กน้อย … อาร์ตทอย (Art Toy) หรือ ดีไซน์ทอย (Design Toy/ Designer Toy) ฝั่งเอเชียจะนิยมเรียกว่า “อาร์ตทอย” ฝั่งตะวันตกจะนิยมเรียกว่า “ดีไซน์เนอร์ทอย” แต่นิยามทั้งสองนั้นมีความหมายคล้ายคลึงกันคือ “ของเล่นที่ศิลปินเป็นผู้ออกแบบและผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดเพื่อจำหน่ายหรือส่งมอบให้กับผู้อื่น” แต่ต่างจากของเล่นของสะสมทั่วๆ ไปที่เราเห็นตามร้านของเล่นตรงที่มีการผลิตจํานวนจํากัด และมักจะไม่จะผลิตขึ้นมาใหม่ และมองได้ว่าเป็นงานศิลปะอีกแบบหนึ่งที่นิยมสะสมในระยะยาว

Brian Donnelly เขาคือศิลปินและนักออกแบบระดับตำนาน รู้จักกันดีจากผลงาน vinyl toys อันเป็นสุดยอดในหมู่นักสะสม รวมไปถึงงานประติมากรรมขนาดยักษ์ที่ถูกนำไปจัดแสดงในสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก โดยผลงานอารต์ทอยเด่นๆ ของเขาก็คือ Kaws ( คอวส์ ) ตัวหัวกระโหลกที่มีลูกตาเป็นกากบาทกับแต่งชุดคล้ายมิกกี้เม้าส์ ปัจจุบันเราจะเห็นว่าคอวส์นั้นมีหลายเวอร์ชั่นที่เอาตัวการ์ตูนดังๆ มารวมกับตัวคาแรคเตอร์คอวส์ในรูปแบบของเล่นและเสื้อผ้าอีกด้วย

อาร์ตทอย นั้นได้ถือกําเนิดในช่วง ค.ศ.1990 โดย กลุ่มศิลปินชาวอาร์ตทอย ที่ชื่นชอบของเล่นได้รวมตัวกันเอง และจัดแสดงโชว์ผลงานขึ้นในรูปแบบของงานนิทรรศการเล็กๆ และหลังจากนั้นก็เริ่มมีการเติบโตและขยายอิทธิพลมาจนถึงประเทศไทย อาร์ตทอยนั้นแตกต่างจากของเล่นหรือของสะสมอื่นๆ หัวใจหลักของอาร์ตทอยก็คือ คำว่า ‘ออกแบบโดยศิลปิน’ ‘จำนวนจำกัด’ ‘ย้อมสีใหม่/ลายใหม่บนตัวเดิม’ และ ’ราคาสูงกว่าของเล่นทั่วไป’ นั่นเอง ส่วนสไตล์และวิธีในการออกแบบนั้นคงอยู่ที่ตัวศิลปินเองว่าจะเลือกแนวทางไหน

Takashi Murakami ศิลปินชาวญี่ปุ่นที่สร้างชื่อเสียงระดับโลกจากผลงานในแวดวงไฟน์อาร์ต อาร์ตทอยจากคาแรกเตอร์ชื่อว่า Mr. DOB คือผลงานสร้างสรรค์ที่แปลกใหม่และเฉียบคมของเขา ชื่อ Mr.DOB นั้นมาจากสำนวนสแลงของญี่ปุ่นว่า “dobojite” หรือ “ทำไม?” ซึ่งก็ได้แสดงออกบนใบหน้าของคาแรกเตอร์นี้อย่างแท้จริง ทำให้เราจดจำเขาได้แม้ว่ารูปร่างหน้าตาของเขาจะเปลี่ยนไปก็ตาม …อาร์ตทอยของ Murakami ส่วนใหญ่ราคาจะอยู่ที่สองสามพันดอลลาร์

‘การออกแบบ’ คือ จุดเด่นของอาร์ตทอยซึ่งจะเกิดขึ้นจากแรงบันดาลใจและแนวคิดของศิลปินโดยแท้ อาร์ตทอยจึง ‘ไม่จำเป็นต้องมีเนื้อเรื่องมารองรับ’ เหมือนกับพวกของเล่นประเภทอื่นๆ ที่อาจจะสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยนำเอาคาแรคเตอร์จากการ์ตูนชื่อดังมาเปลี่ยนให้เป็นของเล่น เรียกได้ว่า “เน้นขายที่ดีไซน์” จะเป็นใคร ทำอะไร ที่ไหน ไม่จำเป็นต้องบอก แต่ถ้าศิลปินอยากบอก ก็ไม่ได้ผิดกฎอะไร

Jason Freeny กับผลงาน The Squatting Balloon Dog ในซีรี่ส์ชื่อว่า XXRAY ที่มีรูปร่างเหมือนกับผลงานประติมากรรมลูกโป่งสุนัขของศิลปิน Jeff Koons แต่ครึ่งหนึ่งของร่างกายถูกฉายเอ็กซ์เรย์ให้เห็นโครงกระดูกด้านใน ผลงานนี้ได้เปิดตัวในงาน Outside In: An Unconventional World of Art Toys ที่ฮ่องกงตอนปี 2020

ทีนี้มาลองฟังคอลเลคเตอร์ที่ผ่านการสะสมงานศิลปะมามากมายหลายประเภทอย่าง อ.ภาคภูมิ เต็งอำนวย ถึงประสบการณ์การเก็บสะสมอาร์ตทอยต่างประเทศกันบ้างดีกว่า “… อาร์ตทอยต่างประเทศแม้เป็นของศิลปินดัง เราอาจไปแย่งซื้อได้ทัน มันมีบริษัทดังๆที่เค้าผลิตอาร์ตทอยพวกนี้อยู่ อย่างเช่น APPortfolio เป็นต้น ถ้าเราซื้อเค้าบ่อยๆเค้าก็จะจำเราได้ ก็ให้พวก VIP ได้สิทธิ์จองก่อน ก่อนที่เค้าจะ regular launch คือ ก็จะมาบอกก่อนเป็นการภายใน ระบบการซื้ออาร์ตทอยในต่างประเทศกับในไทยก็เริ่มจะคล้ายๆกันเข้าไปทุกทีแล้ว ก็จะประกาศออกมาให้คนเข้าไปจองซื้อทางเว็บ ซึ่งกดทันบ้างไม่ทันบ้าง ก็แล้วแต่ดวง … ส่วนเรื่องเลข edition ถ้าเป็นฝรั่งเค้าจะไม่ค่อยแคร์เรื่องเลขกันเท่าไหร่ แต่คนไทยคนเอเชียจะชอบมาเล่นเรื่องเลขกัน เลขตัวเดียวหรือเลขแปดเลขเก้า เลขเบิ้ล เลขเรียง และราคาก็จะไม่เท่ากัน แล้วแต่ว่าเลขสวย เวลามาขายต่อกันในตลาดมือสองก็จะแพงกว่า แต่ฝรั่งจะไม่แคร์เรื่องนี้ จะแคร์เรื่องสภาพมากกว่า จะต้องไม่มีตำหนิ ชำรุดหรือรอยบิ่น

หลังจากได้รับการติดต่อจาก Sony Corporation ในช่วงปลายทศวรรษ 1990 ให้ออกแบบหุ่นยนต์ออร์แกนิก ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นสุนัขไอโบที่มีชื่อเสียง ศิลปิน Hajime Sorayama เริ่มวาดภาพชุดของหุ่นยนต์ผู้หญิงที่รูปร่างถูกต้องตามหลักกายวิภาคของสตรี โดยตั้งชื่อไว้ว่า Sexy Robot เพื่อใช้อธิบายพวกมัน จากนั้น Sorayama ผลิตตุ๊กตาอาร์ตทอยนี้ในจำนวนจำกัดเพียง 100 ชิ้นทั่วโลก โดยแต่ละชิ้นมีใบรับประกันพร้อมลายเซ็นจาก Sorayama เอง

… ตอนนี้ผมลองเปลี่ยนแนวการสะสมมาเป็นงานนอกดูบ้าง จริงๆแล้วคุณภาพและวัสดุก็ไม่ได้ต่างไปจากของศิลปินไทยเลย แถมราคาแพงกว่าเยอะด้วย แต่หลังจากเก็บสะสมงานมาอย่างสะบักสะบอม อย่างน้อยก็เห็นแล้วว่าการเก็บอาร์ตนอกของศิลปินดัง มีคนรู้จักกันทั่วโลก จะได้เปรียบเวลาขายออก ถ้าขายในเมืองไทยไม่ได้ก็ยังส่งประมูลลุ้นเอาก็ยังดี … อาร์ตนอกเวลามาปล่อยกันในเมืองไทย ก็ไม่ใช่ว่าจะขายกันได้ง่ายๆ ถึงแม้งานของศิลปินบางคนจะเป็นที่รู้จักทั่วโลก บางทีเค้าไม่นิยมกัน แต่ถ้าเป็นงานของ Alex Face หรือศิลปินไทยที่โกอินเตอร์ ก็จะเล่นกันมาก อย่าง Muebon หรือ Gongkan

ผลงาน Slingshot ที่เป็นรูปเด็กยิงหนังสติ๊กของ James Jean ชิ้นนี้ได้คอลแลปส์กับแบรนด์สตูดิโอดังอย่าง Avant Arte แรงบันดาลใจเบื้องหลังงานชิ้นนี้มาจากภาพยนตร์เรื่อง Un Chien Andalou โดยผู้กำกับชาวสเปน Luis Buñuel และศิลปิน Salvador Dalí นอกเหนือจากเรื่องราวในพระคัมภีร์ของ David และ Goliath … ศิลปิน James Jean เป็นชาวไต้หวัน-อเมริกัน ที่ผสมผสานศิลปะร่วมสมัยเข้ากับเทคนิคและสุนทรียะที่ได้รับแรงบันดาลใจจากประเพณีโบราณ

อาร์ตทอยต่างประเทศที่ชอบมากเป็นพิเศษ ตอนนี้ก็มีของ เจมส์ จีน ซูจุร่า และยูซุเกะ อาไน พวกนี้เค้าจะคอลแลปส์กับโปรดิวเซอร์ที่มีชื่อเสียงอย่างเช่น DGGstore ที่ฮ่องกง หรือ APPortfolio หรือ Avant Arte หรือ Mighty Jaxx ก็ทำของเล่นเยอะ และก็มี Pop Mart หรือ Global ก็เป็นบริษัทใหญ่ที่ทำกึ่งอาร์ตทอย ส่วนงานที่เป็นกระแสมาแรงตอนนี้ คิดว่าน่าเป็น James Jean และอีกคนคือ Hebru Brantley ศิลปินผิวสีชาวอเมริกัน เค้าจะมี sculpture ที่ทำจากโลหะซึ่งถือว่าเป็นไฟน์อาร์ต แต่เค้าก็จะออก Sculpture ที่ทำจาก polystone หรือ เรซิ่น อีกด้วย ซึ่งจะเป็นอาร์ตทอยและราคาจะย่อมเยาว์กว่า แต่ถึงเค้าออกมาขนาดนี้ ก็จองกันไม่ทัน ผมก็ไม่เคยจองทัน ต้องไปซื้อในตลาดมือสอง ส่วนอาร์ตทอยต่างประเทศที่แม้อยู่มานานแล้ว ก็ยังน่าสนใจน่าสะสม ที่เห็นเค้าเล่นกันก็มี Labubu หรือ Shimomo 

Futura 2000 ตำนานที่ยังมีชีวิตของแวดวงกราฟฟิตี้ เขาช่วยกรุยทางศิลปะแขนงนี้ในช่วงต้นทศวรรษ 1970 ให้ขยายออกจากเพียงการวาดตัวอักษรและไปสู่การปาดป้ายสีแบบนามธรรมมากขึ้น ไม่นานมานี้ Futura ได้คอลแลปส์กับแบรนด์ขนาดใหญ่หลากหลายแบรนด์ เพื่อผลิตอาร์ตทอย รองเท้าผ้าใบ และสื่อสร้างสรรค์ที่หลากหลาย นอกจากคาแรกเตอร์ Pointman อันเป็นที่รู้จักของเขาแล้ว เขายังได้สร้างคาแรกเตอร์ Nosferatu ที่ดูล้ำยุค ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในซีรีส์อาร์ตทอยที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของเขา ผลงาน Nosferatu ส่วนใหญ่ของเขาสามารถหาซื้อได้ในราคาไม่เกิน 1,000 ดอลลาร์

สิ่งที่ต้องระวังในการสะสมอาร์ตทอยต่างประเทศ และจะเจอปัญหาบ่อยที่สุด คือ ชำรุดระหว่างการขนส่ง โดยเฉพาะอาร์ตทอยที่ทำจาก polystone มันอาจจะดูดีกว่าไวนิลที่เป็นพลาสติก แต่มันเปราะ คล้ายๆ แก้ว เวลาโดนกระแทกจากการโยนไปมาระหว่างขนส่ง ดูจากกล่องภายนอกไม่บุบสลาย แต่พอแกะกล่องออกมา จะพบว่าหัก ซึ่งเจอแบบนี้บ่อยมากกับวัสดุ polystone และเรซิ่น โอกาสเสี่ยงสูงถึงห้าเปอร์เซนต์ที่เจอมา ต้องส่งคืน ขอเปลี่ยน เสียเวลามาก อันนี้ก็เป็นข้อควรระวัง … เราก็อาจจะซื้อมือสองต่อจากนักสะสมในเมืองไทย หรือซื้อผ่านแกลเลอรีที่เป็นตัวแทนจำหน่ายหรือได้โควต้าส่วนหนึ่งมาจากแบรนด์ดังๆในต่างประเทศ เช่น Avant Arte เป็นต้น แล้วเค้าก็มาจำหน่ายต่อ ซึ่งถ้าตัวไหนมีตำหนิ เราไปเคลมจากที่เมืองไทยได้ง่ายกว่า ถึงแม้ว่าจะใช้เวลานานเป็นเดือน แต่ถ้าเราสั่งตรงจากเมืองนอกเลย เราก็ต้องวิ่งเต้นเรื่องเคลมเองทุกอย่าง …”

Tristan Eaton ศิลปินจิตรกรรมฝาผนัง จิตรกรสตรีทอาร์ต นักวาดภาพประกอบ และนักออกแบบของเล่น เขาเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีจากภาพจิตรกรรมฝาผนังขนาดใหญ่ที่มีการคอลลาจรูปภาพแนวป็อปต่างๆผสมผสานกับสไตล์ส่วนตัวอันเป็นเอกลักษณ์ของเขา ซึ่งพ่นสีสเปรย์ด้วยมือเปล่าในขนาดใหญ่มหึมา เขาออกแบบของเล่นชิ้นแรกของเขาให้กับ Fisher-Price ตอนอายุ 18 ปี และกลายเป็นแรงผลักดันให้เข้าสู่โลกของอาร์ตทอย ผลงานของ Tristan ที่ทำกับแบรนด์ Kidrobot ก็มีอาร์ตทอย Dunny และ Munny อันโด่งดัง ซึ่งทำให้เขามีชื่อเสียงระดับนานาชาติและมีฐานแฟนๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตุ๊กตา Dunny ส่วนใหญ่มีราคาประมาณ 100 ดอลลาร์ หลังจากการเปิดตัว New Money Metal Dunny ครบรอบ 15 ปี Tristan ได้สร้างเวอร์ชั่นที่สองขึ้น โดยนำเสนอฟิกเกอร์ในวัสดุโลหะสีโรสโกลด์และตกแต่งในสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของเขา ซึ่งผลงานในภาพก็เป็นคาแรกเตอร์ Dunny ที่นำมาใส่ลวดลายเพ้นติ้งของจิตรกรหญิงระดับโลกอย่าง Frida Kahlo นั่นเอง
เจ้าหมี BE@RBRICK  (แบร์บริค)โดยลักษณะพิเศษของของเล่นชิ้นนี้ คือหัวที่มีลักษณะเป็นหมีแต่ตัวมีลักษณะคล้ายตัวต่อของเล่นเลโก้ และมีการวาดลวดลายตามคาแรคเตอร์ที่กําลังเป็นที่สนใจในสังคม ทําให้เจ้าหมีแบร์บริคมีเสน่ห์ต่อคนที่ชื่นชอบในการสะสม และนอกจากจะมีขนาดเล็กแล้วยังมีชิ้นใหญ่ให้เลือกด้วย อย่างในภาพก็จะเป็นลายที่สื่อถึงอัลบั้ม Random Access Memories ของวง Daft Punk ศิลปินดูโอชื่อดังกับแนวเพลง Electronic จากฝรั่งเศส
Ron English ศิลปินสตรีทอาร์ตชื่อดังชาวอเมริกัน นอกจากผลงานจิตรกรรมที่สร้างชื่อให้เขาแล้วนั้น เขาเป็นเจ้าของแบรนด์ Popaganda กับคาแรคเตอร์อาร์ตทอยที่มีจุดเด่นอย่างตัวอีโมจิรูปยิ้มที่เห็นฟัน ผสมผสานกับการยํารวมมิตรตัวการ์ตูนให้ดูมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

______

ขอขอบคุณข้อมูลจาก รองศาสตราจารย์ เภสัชกร ดร. ภาคภูมิ เต็งอำนวย

Credits:

https://www.plotter.in.th/?p=12522

https://www.widewalls.ch/magazine/designer-toys-collectable-art/tristan-eaton-dunny-and-munny

https://www.timeout.com/hong-kong/art/outside-in-an-unconventional-world-of-art-toys

https://www.kidrobot.com/

#tankhappening #arttank #arttankmedia #arttankgroup #arttoy #toyart #designertoy

#media #press #artmedia #artcontent #arthappening #artnow

#art #visualart #fineart #contemporaryart #artscene #artworld #artexhibition #ศิลปะ

Categories
Tank Happening

Art Toy ฟีเวอร์ ! ส่องออลอะเบ้าท์อาร์ตทอยไทย

ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้หลายคนคงเคยเห็นหรือรู้จักกับเจ้า Art Toy หรือ Design Toy กันมาบ้าง แต่เจ้าอาร์ตทอยที่กำลังฮิตกันตามหน้าสื่อโซเชียลมีเดียและวงการศิลปะนักสะสมทั้งไทยและเทศ จริง ๆ แล้วคืออะไรกันแน่ จะว่าของเล่นของสะสมแบบฟิกเกอร์โมเดลทั่วไปก็ไม่เชิงนัก เพราะอาร์ตทอยมีปัจจัยพิเศษอยู่หลายอย่างทั้งเรื่องราคาและปริมาณการผลิตต่อคอลเลคชั่น เช่น มีชิ้นลิมิเต็ดอิดิชั่นที่ศิลปินผลิตเอง ทั้งหายากและค่อนข้างมีราคา มีการสั่งจองล่วงหน้า และศิลปินบางคนถึงกับมีงานจัด Exhibition เป็นเรื่องเป็นราว อาร์ตทอยจึงเปรียบเสมือนงานประติมากรรมสเกลย่อย ๆ ของเหล่าศิลปินหรือจะเรียกได้ว่างานศิลปะในรูปแบบของเล่นก็ได้ ซึ่งการจะจัดว่างานไหนเป็น Art Toy หรือเป็นประติมากรรมนั้น บางทีก็ไม่เกี่ยวกับรูปลักษณ์ ขนาดหรือวัสดุ แต่ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการเก็บสะสม บางชิ้นวัสดุเป็นบรอนซ์ขนาดก็ใหญ่พอสมควรแถมแสดงอยู่ในนิทรรศการโซโล่ของศิลปิน แต่ถ้ามองแล้วว่าเก็บสะสมเป็นแบบบิ๊กบอยทอย ก็จัดว่าเป็น Art Toy ได้

นอกจากอาร์ตทอยจะได้ตลาดของนักสะสมฟิกเกอร์โมเดลการ์ตูนภาพยนตร์แล้วส่วนนึง นักสะสมบางส่วนก็เป็นแฟนตัวยงของศิลปินมาก่อนอยู่แล้ว ตั้งแต่ตอนที่ยังทำงานศิลปะแขนงอื่นทั้งที่เป็น Painting, Street Art, Sculpture จนจับพลัดจับผลูมาทำอาร์ตทอย บ้างทำเป็นงานชิ้นเล็กๆ สะสมส่วนตัว บ้างไป Collaboration กับแบรนด์ผู้ผลิตของเล่นต่าง ๆ อาร์ตทอยค่อนข้างตอบโจทย์ศิลปินและนักออกแบบงานคาแรคเตอร์มาก ทั้งในรูปแบบความเป็นสามมิติและรสนิยมการทำงานของศิลปินที่เป็นได้ทั้งงาน HandCraft และ Mass Production และยังตีตลาดได้ง่ายเป็นที่สนใจในวงกว้างขึ้น ทั้งผู้ที่สนใจซื้อสะสมอาร์ตทอยและผู้ที่ชื่นชอบงานศิลปะ แถมยังเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถครอบครองงานศิลปะของศิลปินที่ตนรักได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ส่วนเรื่องราคาก็ไม่ต้องพูดถึงเพราะแพงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงเวลาไม่กี่ปีนี้เอง แต่ถ้าเทียบกับผลงานศิลปะแล้วนั้น โดยเฉลี่ยก็ยังราคาต่ำกว่า ยกเว้นบางชิ้นที่พิเศษจริงๆหรือภาษาในแวดวงเรียกว่า rare คือหายากมาก มีจำนวนน้อยหรือบางชิ้นมีแค่ตัวเดียว ก็จะมีราคาแพงเทียบเท่าหรือสูงกว่าผลงานศิลปะที่เป็นประติมากรรมเลยทีเดียว

ในเมืองไทยบ้านเฮามีศิลปินหลายคนที่สร้างสรรค์งาน Art Toy ปังๆ ในแบบของตัวเอง ทำให้วงการ Art Toy ไทยมีงานหลากหลายสไตล์ให้เลือกสะสม ไม่ว่าจะเป็นแนวสตรีทอาร์ต แนวป็อปน่ารักๆ หรือแบบอินสปายจากมังงะและคอมมิกส์ รวมถึงคาแรกเตอร์ที่มีความเป็นส่วนตัวอย่างมาก … ทีมงาน ArtTank.Media ได้หยิบยกหลากแบบหลายสไตล์มาให้ดู ไปเบิ่งกัน!!!

ถ้าเป็นขา Art Toy แล้ว ก็ต้องรู้จัก Baby Beyond ของ Alex Face ศิลปินสตรีท อาร์ตไทยที่โด่งดังไปทั่วโลก ซึ่งงานนี้ได้คอลแลปส์กับสตูดิโอดังอย่าง Mighty Jaxx ออกผลงานมาในวัสดุ polystone ขนาด 12 นิ้ว เป็น Limited edition มีสามสีให้เลือกคือ ขาว ดำ ชมพู

ที่มา https://stockx.com/alex-face-mighty-jaxx-baby-beyond-figure-pink

น้องมะม่วง คาแรกเตอร์น่ารักสดใสที่มาพร้อมกับทรงผมอันเป็นเอกลักษณ์คล้ายมะม่วง รวมถึงเส้นสายรูปทรงมนกลมที่มินิมอล ดูเรียบๆเข้าถึงง่าย ทำให้ดังไปไกลถึงญี่ปุ่นแบบติดตามเป็นเอฟซีกันจริงจัง ซึ่งทุกครั้งที่มีออกคอลเลคชั่นใหม่ๆ ก็แทบจะแย่งซื้อกันไม่ทันทุกครั้งเลยทีเดียว

ภาพจาก http://www.facebook.com/Trendygallery.popart

อาจารย์โม่ คมกฤษ เทพเทียน อาจารย์ประจำภาควิชาศิลปกรรม ที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังลาดกระบังฯ ผู้ก่อตั้ง MOTMO Studio ศิลปินผู้เคยสร้างปรากฏการณ์กาชาปองตัวอับเฉาใน Bangkok Art Biennale 2018  และต่อยอดไปเป็นตัว หิมพานต์มาร์ชเมลโล่ ที่โด่งดังเต็มหน้าโซเชียลจนผลิตไม่ทัน อีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่อาร์ตทอยนำพาผู้คนไปเปิดประตูสู่ความสนใจในเรื่องเล่าประวัติศาสตร์และความเชื่อ ประติมากรรมท้องถิ่นในวัดวาอาราม  ไม่ใช่แค่มูลค่าและความน่ารักแต่ยังแฝงไปด้วยเกร็ดประวัติศาสตร์ความรู้ความเชื่อในอดีต ให้ผู้คนได้ศึกษาและอนุรักษ์ผ่านงาน Art Toy

ความเป็นศิลปินของพี่โน้ส อุดมของเราไม่จำกัดแต่เพียงเดี่ยวไมโครโฟนบนเวทีเท่านั้น แต่เขาได้ทำงานศิลปะอย่างจริงจังต่อเนื่องมายาวนานเป็นสิบๆปีแล้ว รวมถึงแสดงนิทรรศการมาหลายครั้ง และล่าสุดกับนิทรรศการแสดงเดี่ยวครั้งใหญ่ในชื่อ I Need a Life Coach ซึ่งรวมเอาผลงานมากมายทั้งเพ้นติ้ง และประติมากรรมบรอนซ์ รวมถึงตุ๊กตาคาแรกเตอร์สีสันสดใสกวนๆมันส์ๆแยกเขี้ยวยิงฟันอันเป็นเอกลักษณ์ส่วนตัวมากๆของศิลปิน จากราคาที่ขึ้นสูงสอดคล้องไปกับความนิยมและจุดแดงจำนวนมากในนิทรรศการ มันช่างเหมาะเหม็งกับการสะสมเป็น Art Toy ที่มีคุณค่าจริงๆ

ริน ศิรินญา ปึงสุวรรณ ศิลปิน Design Toy ไทย ที่ดังไกลถึงประเทศจีน เจ้าของ Art Toy Fenni สัตว์ตัวจิ๋วสีสันน่ารักที่ได้ไอเดียมาเป็นสัตว์ตัวน้อยให้มาเป็นตัวแทนความรัก ครั้นเมื่อ Fenni ได้ไปแสดงในงาน Thailand Toy Expo มีนายทุนจากประเทศจีนมาติดต่อเซ็นสัญญาให้ศิลปินไปร่วมงานอีเวนต์ที่นั่น โดยให้ทำตัว Fenni 2 ตัวเพื่อนำไปประมูล ทำให้ในที่สุดรินก็ตัดสินใจนำเจ้าอาร์ตทอยมาต่อยอดทำเป็นอาชีพและลาออกจากงานประจำ หันมาโฟกัสอาร์ตทอยแทน จนทุกวันนี้รินก็ยังไปกลับระหว่างประเทศไทยและจีนอยู่เสมอ และความฮ็อตฮิตของ Fenni ก็ยังไม่เสื่อมคลายจากใจแฟนๆ

ภาพจาก /https://www.dailynews.co.th/articles/963878/

กลุ่ม TGU (ทีกู) กลุ่มคนรวมกันเฉพาะกิจผู้รักและชื่นชอบงานศิลปะ ทั้งกราฟฟิตี้ ภาพประกอบการ์ตูนของเล่น ผู้ให้ความหมายใหม่กับบริบทที่แตกต่างของอาร์ตทอย กลุ่มศิลปินที่ใช้อาร์ตทอยยั่วล้อประเด็นสังคมการเมือง ทั้ง Darth vader ในรูปแบบพุทธะปางสมาธิ ฟิกเกอร์หน้าคล้ายนักการเมืองคนสำคัญ หรือแม้กระทั่งประเด็นดัง ๆ อย่างหมอปลา หรือ MV เพลงประเทศกูมี ก็ยังถูกจับนำมาทำเป็นฟิกเกอร์ หรือแม้เจ้าตัวจะเอ่ยปากบอกเองว่า “เน้นสนุกไม่เน้นขาย” แต่ภายใต้ความสนุกนั้นก็แฝงไปด้วยการยั่วล้อขนบตั้งคำถาม 

ที่มา: https://www.plotter.in.th/?p=12956

ฮายักษ์ HAYAK คือ Art Toy ที่คาแรกเตอร์เป็นยักษ์แบบไทยๆ สร้างสรรค์โดย “Thai Together” ทำออกมาหลายรูปแบบและขนาด รวมถึงรูปแบบกาชาปองที่ได้รับความนิยมอย่างมาก  Sold Out หมดตลอด เป็น Art Toy เวอร์ชั่นวินเทจแบบไทยๆ อารมณ์งานวัดโมเดิร์น ขนาดเหมาะมือ ซึ่งตัว Rare วัสดุจะเป็นโลหะ

ภาพจาก https://www.facebook.com/HayakThai2/photos

สุดท้าย มด นิสา ศรีคำดี หรือ Molly ศิลปิน Art Toy คลื่นลูกใหม่ที่มาแรงสุด ๆ ในตอนนี้ ถึงขนาดผู้ชมแห่กันมาต่อแถวเข้าคิวชม (Exhibition : Cry me a river by CryBaby Molly)  และ Sold out จนผลิตไม่ทันกับเจ้า Cry Baby เด็กน้อยหน้าบึ้งร้องไห้ มด เคยเล่าไว้ว่าทุกคนเลือกที่จะแสดงด้าน Positive ขอตัวเองว่าเป็นคนยิ้มแย้มสดใส แต่น้อยคนที่จะแสดงด้านที่อ่อนแอให้ใครเห็นและเธอรู้สึกว่าการร้องไห้ช่วยปลดเปลื้องจิตใจและเป็นหนทางก้าวพ้นความทุกข์ไปได้ ไม่ใช่แค่ประเทศไทยเท่านั้นที่เจ้า Cry Baby โด่งดังแทบจะทั่วเอเชีย แม้ว่าจะเริ่มต้นได้เพียงแค่ห้าปีเท่านั้น ถือเป็นอีกหนึ่งคนที่น่าจับตามองที่สุด

ภาพจาก https://www.dooddot.com/solo-exhibition-cry-me-a-river-by-crybaby-molly/

คงเห็นได้ว่าอาร์ตทอยไม่ใช่แค่ของเล่นราคาแพง แต่ยังอีกตัวแปรสำคัญของเศรษฐกิจและซอฟต์พาวเวอร์ในอนาคตได้อีกด้วย ทั้งเม็ดเงินที่จะสะพัดเข้ามาและโอกาสของศิลปินหน้าใหม่และเก่าที่จะเผยแพร่และเปิดตลาดสู่โลกสากล หรือ Art Toy จะไปเป็นเครื่องมือในการยั่วล้อวิพากษ์สังคมหรือผลักดันอนุรักษ์วัฒนธรรมก็สุดแล้วแต่ที่ศิลปินจะรังสรรค์จิตนาการ 


Credit:
https://www.thairath.co.th/lifestyle/travel/622390

https://www.facebook.com/Trendygallery.popart

https://www.dooddot.com/solo-exhibition-cry-me-a-river-by-crybaby-molly/

https://www.google.com/search?q=baby+rabbit+alex+face&tbm=isch&ved=2ahUKEwjLo_2-5on5AhVdNLcAHb5wA88Q2-cCegQIABAA&oq=Baby+Rabbit+alex&gs_lcp=CgNpbWcQARgAMgQIABAYOggIABCxAxCDAToFCAAQgAQ6CAgAEIAEELEDOgsIABCABBCxAxCDAToECAAQEzoGCAAQHhAIUL8EWMFCYMtSaAJwAHgAgAGMAYgB5QeSAQQxMS4xmAEAoAEBqgELZ3dzLXdpei1pbWfAAQE&sclient=img&ei=HC7ZYsulMt3o3LUPvuGN-Aw&bih=657&biw=1437&rlz=1C5CHFA_enTH1008TH1009&hl=th#imgrc=s7OvEP6SE2DwUM

http://www.adaymagazine.com/people-jib-pongsatorn-thailand-toy-expo/

https://www.plotter.in.th/?p=12956

http://www.dailynews.co.th/articles/963878/

http://www.funkokingthailand.wordpress.com/designer-toys-thailand/kwaii-coarse-thailand-is/

Categories
Tank Happening

บุกโลก Upside Down

พบศิลปะที่อินสปาย ซีรี่ส์ฮ็อตสุด ณ ขณะ NOW

แรงแซงโลด! ซีรี่ส์ไฮป์สุดช่วงนี้ไม่มีใครแรงเกินโลกกลับหัวอัพไซด์ดาวน์ของสเตรนเจอร์ ธิงส์ ที่กำลังฉายอยู่บน Netflix สุดแน่นอน ซึ่งเพิ่งออกวอลลุ่มสองของซีซั่นสี่ไปเมื่อศุกร์ที่ 1 กรกฎาที่ผ่านมานี้เอง 

เหมือนกับหนังหรือซีรี่ส์ที่มีคาแรคเตอร์ตัวเองชัดๆหลายเรื่อง ที่ตัวเนื้อหา ฉาก การแต่งกาย ดีไซน์ และเพลงประกอบ มักจะทำให้เรานึกถึงรูปแบบศิลปะต่างๆที่มีเสน่ห์และเป็นเอกลักษณ์ระดับตำนานโลก ซึ่งสเตรนเจอร์ ธิงส์ ก็เป็นหนึ่งในนั้น นอกจากเนื้อหาและการออกแบบให้เป็นแนวเรโทรย้อนยุค 80 ด้วยแล้ว ก็โดดเด่นด้วยแนวศิลปะ(genre)และอาร์ตมูฟเม้นท์จี๊ดๆที่อัดแน่นอยู่มาก มีทั้งอินสปายกันมาแบบทั้งตั้งใจหรือบังเอิญก็เถอะ แต่ที่เต็มๆก็คือศิลปะแนว Lovecraft หรือ Cosmic Horror ที่เป็นซับชอนราหรือส่วนย่อยของศิลปะแนวสยองขวัญ(Horror) เพราะในสเตรนเจอร์ ธิงส์ก็จะมีมอนสเตอร์ตัวเด่น ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับ Cthulhu ตัวละครเด่นที่เป็นเทพเจ้าหน้าตาเหมือนมอนสเตอร์ในนิยายของ H.P. Lovecraft ซึ่งศิลปะแนวเลิฟคราฟท์นี้ ก็มักจะวาดฝันจินตนาการถึงเทพที่มีลักษณะคล้ายปีศาจหมึกยักษ์หนวดยาว ปีกมังกร ร่างมนุษย์นี้มากมายจนแยกย่อยเป็นศิลปะแนวธูลู(Cthulhu Art)เลยทีเดียว นอกจากนั้นก็มีอินสปายจากศิลปะแนวที่ผนวกเรื่องอิงวิทยาศาสตร์ไปด้วยอย่าง Science Fiction Horror ด้วยศิลปะแนวๆนี้มักจะมีสัตว์ประหลาดเป็นตัวเด่นอยู่เสมอ อย่างศิลปะสกุลช่าง H.R. Giger ซึ่งทั้งโลกรู้จักกันผ่านหนังเรื่อง “เอเลี่ยน” นั่นเอง

บรรยากาศโลกเหนือจริงและฟอร์มบางอย่างในซีรี่ส์นี้ก็ชวนให้นึกถึงศิลปะแนวเหนือจริง(Surrealism) อย่างงานของหลุยส์ บูร์ชัวส์ โดยเฉพาะมูฟเม้นท์ย่อย เช่น Dystopian Surrealism ศิลปะแนวเหนือจริงถึงโลกที่เสื่อมทราม ซึ่งมีศิลปินเด่นๆอย่าง Beksinski เป็นต้น อีกมูฟเม้นท์คือ Lowbrow & Pop Surrealism ที่เกิดขึ้นในเมืองLA ช่วงปลายทศวรรษ 70 เป็นงานเหนือจริงแบบอันเดอร์กราวนด์จากการผสมของคอมมิกส์ ดนตรีพั้งค์ และวัฒนธรรมมันส์ๆสตรีทๆ ก็เป็นกลิ่นอายที่พบได้ในซีรี่ส์สเตรนเจอร์ ธิงส์ ซึ่งก็ร่วมสมัยด้วยกันกับการแทรกฟีลลิ่งโหดๆผสมสยองขวัญ แต่ก็ต่างกันที่ว่า Lowbrow นั้นจะติดกวนมันส์ๆ ตลกร้ายแบบประชดประชัน และมีส่วนผสมคอมมิกส์หรือบางทีก็ป็อปๆน่ารักนิดๆ

การระเบิดพลังจิตของแอล ตัวละครเอกในเรื่องและการไหลของพวกเถาวัลย์หรือหนวดก็ได้รับอิทธิพลมาจากอนิมะโคตรเกรียนอย่าง Akira และ Elfen Lied ที่เป็นมูฟเม้นท์ศิลปะในวัฒนธรรมเจ-ป็อป

พร้อมรึยัง! ถึงเวลาไปตะลุยงานอาร์ตสไตล์โลกอัพไซด์ดาวน์กันได้ละ… ลุยโลด!!


Lovecraftian 

1. John Coulthart

‘Tsathoggua’ by John Coulthart
The Great Old Ones from The Haunter of the Dark and Other Grotesque Visions
< http://www.johncoulthart.com/retinacula/oldones.html >

ศิลปะแนวเลิฟคราฟท์ปรากฎในสเตรนเจอร์ ธิงส์อย่างเด่นชัด ศิลปินหลายคนที่ปังปุริเย่ในแนวนี้ก็มีมากมาย หนึ่งในนั้นคือ John Coulthart ศิลปินชาวอังกฤษที่ชนะรางวัลศิลปินแฟนตาซีโลกประจำปี 2012 กับงานที่ให้ฟิลลิ่งต้นแบบของสไตล์เลิฟคราฟท์อย่างมาก โดยเฉพาะความสยองขวัญที่ดูขรึมๆและเร้นลับแต่ทรงพลังจากคอนทราสต์จัดๆของแสงเงา

2. Pascal Blanché

Azathoth the Daemon Sultan
Date: September 29, 2021
https://twitter.com/pascalblanche/status/1442966955506470912?lang=zh-Hant

ถึงจะทำเรื่องเกี่ยวกับเลิฟคราฟท์และธูลูก็ตามแต่งานของศิลปิน Pascal Blanche ก็มีเอกลักษณ์โดดเด่นที่ดูล้ำๆฟิวเจอริสติค สไตล์สีเรโทรนิดๆ และคู่สีที่ตัดกันแรงๆอย่างแดงและเขียว

แม้ว่าผลงานของPascal จะสร้างมาหลังจากสเตรนเจอร์ ธิงส์ออกฉายแล้ว และคงไม่ให้อิทธิพลต่อกันโดยตรง แต่ก็เป็นสายโลหิตร่วมกันที่ว่าสร้างสรรค์ศิลปะแนวเลิฟคราฟท์และธูลูเพราะเขาเป็นดิจิทัลอาร์ติสที่มีผลงานที่เป็นแนวเลิฟคราฟท์และธูลูหลายซีรี่ส์รวมถึงซีรี่ส์ที่มีชื่อว่า “Lovecraftian Pantheon”

เขาพูดถึงผลงานชื่อ Azathoth the Daemon Sultan ไว้ว่า “มันต้องการอาหาร”

ที่มา https://www.pascalblanche.com/about

3. Joel Harlow

CTHULHU BRONZE SCULPTURE by Joel Harlow
http://www.epberglund.com/RGttCM/nightscapes/NS01/ns1art1.htm

ศิลปะแนวเลิฟคราฟท์ไม่ได้มีเพียงภาพวาดเท่านั้น แต่ก็มีงานสามมิติซึ่งมีศิลปินดีกรีออสการ์สาขาเมคอัพอาร์ติสอย่างJoel Harlow ผู้โดดเด่นเรื่องงานสามมิติ เขาได้สร้างงานประติมากรรมบรอนซ์ที่สื่อถึงเทพเจ้าธูลูที่คงคุณลักษณะเด่นแบบมอนสเตอร์ตัวนี้ ที่ดูมีมนต์ขลัง ด้วยการสร้างพื้นผิวเป็นรอยย่นและการบากร่องเป็นริ้วๆซึ่งเป็นคาแรคเตอร์เด่นของศิลปินคนนี้

4. Stephen Hickman

Cthulu
Produced and Distributed by Bowen Designs © Stephen Hickman

http://www.stephenhickman.com/cthulu.html

ศิลปิน Stephen เป็นที่รู้จักในแวดวงศิลปะแนวLovecraftian ผ่านหน้าปกคอลเลคชั่นนิยายธูลูอันโด่งดังของ Robert E. Howard ซึ่งภาพวาดของStephenได้ถูกแปลงมาสู่รูปปั้นจริงๆจนเป็นที่กล่าวขานในแวดวง Lovecraftian อีกทั้งการันตีในความเป็นรุ่นใหญ่ของเขาในศิลปะแนวนี้จากรางวัลและเกียรติยศมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Hugo Award และ Chesley Award ถึงหกครั้ง รวมถึง Spectrum Gold Award อีกสองครั้ง เป็นต้น

ที่มา: http://www.stephenhickman.com/default.html

5. Allen Koszowski

เอกลักษณ์ผลงานของ Allen Koszowski มาจากภาพวาดลายเส้นขาว-ดำ ที่แม้ว่าบางงานจะมีสีก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ด้วยอารมณ์เส้นสายที่เมามันส์ผนวกลวดลายพื้นผิวยึบยับกับการตัดเส้นกึ่งคอมมิกส์ รวมกับฟอร์มสีดำทึบที่ดูเข้มข้น ส่งผลให้มีงานของเขาปรากฎบนหนังสือนิยายแนวสยองขวัญมากมายจนเขาได้รับรางวัล L. Ron Hubbard Illustrators of the Future ถึงสิบปีติดกันเลยทีเดียว

ที่มา http://www.allenk.com/main.html

6. Francois Launet

ผลงานภาพสีอะคริลิคของศิลปิน Francois Launet ถึงจะมีรูปแบบสกุลช่าง Giger ก็ตาม ผลงานมากมายของเขาได้รับอิทธิพลจากนิยายและศิลปะแนวเลิฟคราฟท์เป็นอย่างมาก ด้วยงานมีคาแรคเตอร์ส่วนตัวที่ไร้คำจำกัดความในเนื้อหาเรื่องราว ทำให้เกิดความรู้สึกน่าขนลุกอย่างยิ่ง

ที่มา https://www.hplovecraft.com/popcult/art.aspx

7. Dan Mumford

ศิลปิน Dan Mumford มีผลงานที่เป็นอีกหนึ่งสไตล์ในจักรวาลของศิลปะเลิฟคราฟท์ ซึ่งเราจะเห็นสไตล์นี้ได้ในซีรี่ส์และโปสเตอร์หลายเอพิโซดของสเตรนเจอร์ ธิงส์ นั่นก็คือ การผสมผสานคอมมิกส์ยุคก่อนที่มีการตัดเส้นหนาและช่วงเงาที่เน้นสีดำที่เรียกว่าคอนทราสต์สูง ประกอบกับโทนสีเรโทรยุค80sและเส้นบวกฟอร์มกระชากกระชั้นแบบปกเพลงเมทัลที่เป็นตำนานในอดีต หลายปีที่ผ่านมาเขาได้แสดงผลงานในนิทรรศการศิลปะกับแกลเลอรี่หลายแห่งและโชว์ในเทศกาลมากมายทั่วอเมริกา

ที่มา https://www.dan-mumford.com/about

8. Andree Wallin

ผลงานของ Andree Wallin ให้ฟีลลิ่งยิ่งใหญ่แบบอีพิค ทำให้หนังใหญ่ระดับฮอลลีวู้ดบล็อคบัสเตอร์ให้เขาเป็นคอนเซปท์อาร์ติสหลัก ผู้ดีไซน์บรรยากาศของหนังเลยทีเดียว เช่น Oblivion (2010-2013), Star Wars: The Force Awakens (2013-2014), Star Wars: The Rise of Skywalker (2018) และ Jurassic World 3: Dominion (2019) เห็นรายชื่อหนังแล้วแทบจะขนลุกเลยทีเดียว …แต่อย่างไรก็ตามงานคอนเซ็ปท์อาร์ตที่เป็นของเค้าเองก็เฉียบจนตาหลุด สมภาคภูมิความเป็นศิลปินที่สร้างงานแนวเลิฟคราฟท์ในสไตล์อีพิคอลังการ

ที่มา: https://andreewallin.com/Misc-Client-Work

Sci-fi Horror

9. H.R. Giger 

H.R. Giger ศิลปินแนวเซอร์เรียลลิสม์ชาวสวิสผู้นี้เป็นที่รู้จักในภาพชีวกลศาสตร์อันน่ากลัวและมีความโดดเด่นในคาแรคเตอร์เป็นอย่างมากซึ่งก็โชว์ออกมาในหนังดังอย่าง เอเลี่ยน เป็นต้น เขาเคยกล่าวว่าเขาได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะแนวเลิฟคราฟท์ แต่เราก็เห็นว่าผลงานของเขามีเอกลักษณ์ส่วนตัวมากซะจนเป็นศิลปะแขนงย่อยแบบสกุลช่างของเขาเองที่เรียกว่า Gigeresque เลยก็ว่าได้ ซึ่งเรารู้สึกถึง Gigeresque ในดีไซน์ของซีรี่ส์สเตรนเจอร์ ธิงส์ได้ในหลายๆส่วน

ที่มา: https://www.hplovecraft.com/popcult/art.aspx https://www.cheatsheet.com/entertainment/stranger-things-10-inspirations-probably-missed.html/ https://hrgiger.com/

Surrealism 

10. Louise Bourgeois

Louise Bourgeois, Maman, 1999, cast 2001, Bronze, marble, and stainless steel, 29 feet 4 3/8 inches x 32 feet 1 7/8 inches x 38 feet 5/8 inches (895 x 980 x 1160 cm), Guggenheim Bilbao Museoa, © Louise Bourgeois/Licensed by VAGA, New York, NY

เมื่อเห็น Mind Flayer มอนสเตอร์เอกในซีรี่ส์นี้ จะไม่นึกถึง Maman ประติมากรรมยักษ์โดย หลุยส์ บูร์ชัวส์ ก็คงจะประหลาดมาก ด้วยความสูงท่วมหัวและมีหลายขาแต่ความสูงของขาที่ยกตัวขึ้นก็เกินสัดส่วนของแมงมุมทั่วไป ทำให้มีฟีลลิ่งคล้ายคลึงกัน ผลงานชิ้นนี้ได้ถูกอธิบายไว้ว่า มันเป็นเหมือนกับสิ่งมีชีวิตที่หลบหนีออกมาจากความฝัน ขนาดรูปทรงที่ใหญ่โตก่อร่างมาจากความกลัวในวัยเด็กของศิลปิน แมงมุมยักษ์ Maman (1999) ทอดเงาอันทรงพลังของร่างกายและจิตใจ ประติมากรรมใหญ่เท่าแมมมอธสูง 30 ฟุตชิ้นนี้ ถือเป็นหนึ่งในงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาชีพอันยาวนานของศิลปิน ตลอดผลงานมากมายที่กินเวลานานกว่าหกสิบปี 

ผลงานของเธอมีทั้งที่เป็นสากลและเป็นส่วนตัวแบบลึกซึ้ง โดยผลงานชิ้นนี้ถ่ายทอดความทรงจำในวัยเด็กอันเจ็บปวดจากพ่อที่ไม่ซื่อสัตย์และแม่ที่รักเดียวใจเดียว เธอเป็นที่รู้จักจากงานสไตล์เซอร์เรียลลิสต์ ซึ่งผลงาน Maman สื่อถึงแม่ของศิลปินเอง แมงมุมที่ปกป้องไข่อันล้ำค่าของเธอในร่างที่แข็งเหมือนกรงเหล็ก กระตุ้นความหวาดกลัว ในความสูงใหญ่ของเธอ ซึ่งดูแล้วไม่สมดุลกับขาที่เพรียวบางพร้อมจะหัก สื่อถึงความเปราะบางอันเจ็บปวด

11. Zdzisław Beksiński

พอเห็นมอนสเตอร์ Demogorgon หรือที่ยังไม่โตเต็มวัยแล้วถูกเรียกว่า Demodog ในสเตรนเจอร์ ธิงส์แล้ว ก็ทำให้นึกถึงมอนสเตอร์ที่คลานอยู่ในภาพเพ้นท์ติ้งบรรยากาศฝันร้ายของ Zdzisław Beksiński ศิลปินแนวเหนือจริง(Dystopian Surrealism)ชาวโปแลนด์ที่ภาพวาดเขาจินตนาการถึงโลกอันเสื่อมทรามในอนาคต ซึ่งเป็นโลกแห่งหายนะและมีสัตว์ประหลาดวิ่งไล่ออกมากินคน แวดล้อมไปด้วยความตาย ซากปรักหักพัง ภูมิทัศน์ที่เต็มไปด้วยซากศพ โครงกระดูก ซึ่งภาพโหดๆนั่นก็เป็นเอกลักษณ์ของศิลปินที่คนจดจำได้

ที่มา https://www.jwd-artspace.com/en/blog/5-paintings-that-will-haunt-your-dream/

12. Todd Schorr

Todd Schorr ศิลปินอเมริกันกับศิลปะแนว Lowbrow ที่เกิดขึ้นยุค 70-80s ในสหรัฐฯ และภายหลังพัฒนามาเป็นศิลปะแนวป็อปเซอร์เรียลิสม์ ซึ่งเขาได้ผนึกภาษาภาพจากการ์ตูนเข้ากับทักษะฝีมือการวาดขั้นสูงแบบมาสเตอร์ในอดีตของโลก เขาได้ผสานการเล่าเรื่องราวซับซ้อนที่วิพากษ์ถึงสภาพของมนุษย์ในสไตล์กัดหยอกตลกร้าย ด้วยบรรยากาศแบบสยองขวัญและองค์ประกอบหลายอย่างทำให้นึกถึงศิลปะแนวเลิฟคราฟท์และซีรี่ส์สเตรนเจอร์ ธิงส์ 

ที่มา https://en.wikipedia.org/wiki/Todd_Schorr

13. Jeff Soto

Jeff Soto, The Bike Ride, 2012, Acrylic on wood panel, 42 x 120 inches < https://jonathanlevineprojects.com/exhibits/jeff-sotodecay-and-overgrowth/&gt;

อาจจะเป็นความบังเอิญที่งานของ Jeff Soto มักมีบรรยากาศฉากหรือรูปวัตถุที่เห็นได้ในซีรี่ส์สเตรนเจอร์ ธิงส์ เขาเป็นทั้งจิตรกร นักวาดภาพประกอบ จิตรกรฝาผนัง ศิลปินที่แสดงงานิทรรศการมาแล้วในแกลเลอรี่และพิพิธภัณฑ์ทั่วโลก ตั้งแต่เด็กเขาได้ค้นพบการผสานระหว่างโลกของการวาดภาพเพ้นติ้งบนแคนวาสแบบเก่ากับกราฟิตี้บนกำแพง ซึ่งสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของเขาเกิดจากการสลายเส้นแบ่งของป็อปเซอร์เรียลเข้าแนวสตรีทอาร์ต

ที่มา https://jeffsoto.com/about

J-Pop Art (Anime)

14. Katsuhiro Otomo’s AKIRA

ภาพยนตร์อนิเมะระดับตำนานอย่าง AKIRA (1988) ถือเป็นงานศิลปะมาสเตอร์พีซในเจแปนป็อปอาร์ต มูฟเม้นท์หนึ่งของศิลปะโลกได้ โดยเฉพาะความเป็นต้นแบบของมังงะและอนิเมะในยุคต่อๆมา และแถมให้อิทธิพลไปถึงศิลปินทางฝั่งตะวันตกยุคใหม่ด้วยเช่น สตรีทอาร์ท ป็อปเซอร์เรียสลิสม์ และนิวป็อปอาร์ตอีกด้วย จากจินตนาการการสลายฟอร์มเป็นเส้นสายและก้อนสสารไหลโฟลว์ จนถึงระเบิดพลังที่มีฟอร์มและสีสันมันส์หยด เราก็จะพบภาพเหล่านี้ในสเตรนเจอร์ ธิงส์ด้วยเช่นกัน


อ้างอิง

https://www.cheatsheet.com/entertainment/stranger-things-10-inspirations-probably-missed.html/

https://www.behance.net/gallery/16265285/Lovecrafts-Monsters

Categories
Tank Happening

เก็ทไฮด์!! อินสปายอาร์ต

สอดส่องศิลปะกับกัญชาทั่วโลก

ต๊าซมาก!! ช่วงนี้ไม่มีอะไรร้อนแรงแซงหน้า“เสรีกัญชา”ของไทยไปได้แล้ว ยุคเบบี้บูมก็สู้ยุคกัญชาบูมไม่ได้ ต่อแถวหน้าร้านขายกันยาวเฟื้อย วงการศิลปะก็ไม่แพ้กัน งานคอลแลบระหว่างศิลปะกับกัญชาก็ต้องมา เดินหน้าสร้างและโชว์ผลงานอินสปายบายกัญชา ส่วนศิลปินมากมายทั้งที่เคยคอลแลบกับมันมาก่อนการเปิดเสรีหรือที่ไม่เคยก็ตาม ต่างตบเท้ากันมาเซเลเบรทกันให้ครีเอทีฟเบ่งบาน ทะลายกำแพงจินตนาการ ด้วยคำถามชวนสงสัยว่ามันช่วยสร้างสรรค์งานศิลปะและดนตรีได้สุดปลั่งได้จริงหรือ ถึงมีศิลปินเสพกันในระหว่างสร้างงานศิลป์ แต่งเพลง หรือขณะเล่นดนตรีกันมากมาย รวมถึงได้รับแรงบันดาลใจจนใส่มันไว้ในงานศิลปะและงานเพลงของตน ไม่ว่าจะเป็นศิลปินไฟน์อาร์ตระดับโลกอย่างปิกัสโซ่ หรือศิลปินร่วมสมัยเช่น Chris Burden กับ Richard Prince และรุ่นหลังอย่าง Fred Tomaselli มาจนถึงแนวสตรีทอาร์ตของไทยอย่าง Muebon และ Bigdel นอกจากนั้นก็มีศิลปินเพลงในตำนานที่ไล่เรียงยุคกันมาอย่าง Louis Armstrong กับแจ๊สยุคแรก และ The Beatle กับ Bob Dylan ในยุคฮิปปี้ จนถึง Bob Marley ในแนวเร็กเก้ ต่อด้วยฮิปฮอปตัวพ่อในปัจจุบันอย่าง Snoop Dogg ที่เปิดกิจการขายกัญชาด้วย จวบจนล่าสุดอย่างราชินีป๊อปแดนซ์ Lady Gaga ที่โพล่งออกมาตรงๆเลยว่า “ฉันสูบกัญชาเยอะมากตอนที่แต่งเพลง”

มีงานวิจัยมากมายโดยนักประสาทวิทยา(Neurologist) เกี่ยวกับปฏิกิริยาของระบบประสาทและสมองที่มีต่อกัญชา รวมถึงการทะลุทะลวงสมองส่วนหน้า(Frontal Lobe) ซึ่งทำงานด้านความคิดสร้างสรรค์ อีกทั้งนอกวงวิชาการก็มีกิจกรรม workshop มากมาย รวมถึงการสัมภาษณ์ใน Podcast ชื่อซีรี่ส์ ‘Stoner’ ของ Aaron Lammer ที่เชิญศิลปินและนักดนตรีมากมายมาคุยถึงประสบการณ์เรื่อง “กัญชามีอิทธิพลต่อการสร้างสรรค์ศิลปะอย่างไรบ้าง” ถึงแม้ว่าผลจะเป็นบวกเสียส่วนใหญ่ทั้งสองแนวการศึกษา แต่ก็มีบางคนมีความรู้สึกแย่ๆบ้าง ทั้งนี้ ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับปริมาณ สายพันธุ์กัญชา ช่วงเวลา ประสบการณ์ชีวิต เหตุการณ์สะเทือนใจ ความต้านทานของร่างกาย บุคลิกนิสัย เป็นต้น ศิลปิน Chris Bogia เผยว่า “กัญชาช่วยให้ผมขยายและจัดเรียงไอเดียแนวคิดที่ผมพยายามสร้างขึ้นมานาน ก่อนจะสูบมัน” เขาเสริมด้วยว่า “ผมว่ามันมีประโยชน์นะ แต่มันไม่ใช่ตะเกียงวิเศษที่ช่วยแก้ปัญหาความคิดสร้างสรรค์ได้เสมอไป”  เมื่อเป็นแบบนี้ เราก็ควรบาลานซ์ให้พอเหมาะ เพราะกัญชาก็เหมือนข้าว กินมากไปก็หลับเป็นผัก แต่ถ้าไม่มีเลย โลกศิลปะคงเหี่ยวเฉา งานศิลปะและดนตรีสุดปังระดับโลกมากมาย ก็อาจไม่มีให้เห็น 

… คอลัมน์นี้เรารวบรวมผลงานและศิลปินที่เก็ทไฮด์จนได้อินสปายในงานของตนมาให้ทุกท่านได้สอดส่องกัน ไปเซย์ไฮด์ศิลปะกับกัญชาทั่วโลกกันเล๊ยย

1. Pablo Picasso

Pablo Picasso, ’Untitled.’, 1966, Monograph Print (Pablo Picasso Portrait Men Smoking Pot)- ORIGINAL, 10 x 7 inches; 25 x 18 cm
<image: https://www.periodpaper.com/products/1966-print-pablo-picasso-portrait-men-smoking-pot-original-093365-pic6-002>
Pablo Picasso, ’The Smoker.’, 1964, lithograph on paper, 22 x 15 in
<image: https://www.worthpoint.com/worthopedia/pablo-picasso-le-fumeur-smoker-1822983309>

อะไรคือความสัมพันธ์ระหว่าง Picasso กับกัญชา? ในยุคงานศิลปะของเขาที่ชื่อ “Rose Period” (ปารีส, 1904-1907) Pablo Picasso และแฟนสาวของเขา Fernande Olivier เคยเสพฝิ่นและกัญชาสกัดที่บ้านของเพื่อนชื่อ Patrick O’Brian ซึ่งเขาได้กล่าวถึงการกินกัญชาสกัดเม็ดในชีวประวัติของ Picasso (1976) ไว้ว่า “Picasso พบกับความยากลำบากในการสร้างสรรค์งานของเขา – มันเหมือนกับว่าเขาตันแล้ว เขาวาดภาพสิ่งเดียวกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า” ประสบการณ์ของ Picasso เกี่ยวกับกัญชานั้นไม่ดีเลย นี่อาจเกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริงที่แฮชหรือกัญชาสกัดถูกผสมกับสารอื่นๆ ซึ่งในตอนต้นของศตวรรษที่ 20 มีข้อมูลไม่มากนักเกี่ยวกับปฏิกิริยาของกัญชาเหมือนในทุกวันนี้ 

ที่มา: https://hashmuseum.com/en/collection/history-of-smoking/picasso-paris-and-hashish/

2. Fred Tomaselli

Fred Tomaselli, Super Plant, 1994. Psychoactive plant material, acrylic and resin on wood panel, 74 x 54″, Hort Family Collection, © Fred Tomaselli. Image courtesy of the James Cohan Gallery, New York.<https://shopgoldleaf.com/blogs/newsfeed/7-brilliant-artists-who-are-integrating-cannabis-based-themes-into-their-art>

งานของ Fred Tomaselli ส่วนใหญ่จะใส่องค์ประกอบหลายอย่างในภาพเขียนที่เคลือบด้วยเรซินของเขา ไม่ว่าจะเป็น แมลง ยาเม็ด ผีเสื้อ และดอกไม้ แต่งานชิ้นนี้ที่สร้างในปี 1994 ได้อุทิศให้กับกัญชาเพียวๆเท่านั้น ด้วยพื้นหลังสีดำและสไตล์มินิมัลลิสต์ เน้นย้ำถึงความงามที่ละเอียดอ่อนและเป็นธรรมชาติของพืชชนิดนี้โดยสื่อถึงความรู้สึกแบบหลอนประสาทอันเป็นเอกลักษณ์ในงานของศิลปินได้เป็นอย่างดี ผลงาน Super Plant นี้ ปัจจุบันอยู่ในการสะสมของ Hort Family Collection ในนิวยอร์ก

ศิลปิน Fred Tomaselli ได้กล่าวไว้ว่า “ในกรณีของผม มันอาจจะค่อนข้างตลกและค่อนข้างแปลกที่กำลังจัดเรียงและแปะรูปใบกัญชาบนผิวของภาพเขียนผมเอง ในขณะที่ผมก็กำลังสูบมันอยู่” เขากล่าวต่อ “ใช่กัญชากำลังบอกผมว่าควรทำอย่างไรกับมันจากภายในสมองของผมเองรึเปล่านะ? หรือนั่นเป็นเพียงความคิดรั่วๆของคนกำลังเมากัญชาล่ะมั้ง?”

ที่มา: https://news.artnet.com/art-world/marijuana-weed-art-cannabis-artworks-338428 และ https://www.artsy.net/article/artsy-editorial-smoking-pot-creative

3.Dan Cole

Dan Colen, Life Marijuana, 2006, Mixed media installation comprised of 1 digital print and 4 unique framed Lambda prints (accompanied by CD with digital file of print), 320 x 250 cm Unique Lambda prints 38 x 38 cm each <https://www.saatchigallery.com/artist/dan_colen>

ช่วงวัยรุ่นของศิลปิน Dan Colen เขาเป็นเด็กหนุ่มผู้คลั่งไคล้ปาร์ตี้ ซึ่งตอนนี้หย่าขาดการเมากับเหล้ายาปลาปิ้งแล้ว ในปี 2549 เขาได้สร้างงานที่เป็นการแสดงความเคารพต่อกัญชาในรูปแบบของงานสื่อผสมแบบจัดวางนี้ ในการสร้างผลงานชิ้นนี้ ศิลปินได้ขยายปกนิตยสาร Life อันโด่งดังจากปี 2512 ที่มีบุหรี่กัญชาวางอยู่เบื้องหน้าด้วยริมฝีปากคู่หนึ่ง ผลงานชื่อ ‘Life Marijuana’ ถูกขายไปในราคา 47,280 ดอลล่าร์(~1.6 ล้านบาท) ที่บริษัทประมูลระดับโลก Christie’s London ในปี 2554

ที่มา: https://softsecrets.com/en-US/article/marijuana-life-dan-colen

4.Chris Burden

Chris Burden, Coals to Newcastle, 1978. © Chris Burden. Courtesy Gagosian Gallery.

Chris Burden ใช้กัญชาในผลงานเพอร์ฟอร์แมนซ์ อาร์ตหลายๆ ชิ้นของเขา แต่ผลงานที่มีชื่อว่า ‘Coals to Newcastle’ ซึ่งได้ทำการแสดงในวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2521 เป็นผลงานชิ้นที่กล้าบ้าบิ่นที่สุดชิ้นหนึ่งของเขา ชื่องานถูกตั้งตามสำนวนภาษาอังกฤษที่บ่งบอกถึงการกระทำที่ไร้เหตุผล ศิลปินเอากัญชาพันลำสองมวน(ปลูกในสหรัฐอเมริกา) ส่งขึ้นเครื่องบินจำลอง เทคออฟจากแคลิฟอร์เนียมุ่งไปแลนดิ้งที่เม็กซิโก ซึ่งบนเครื่องบินจำลองมีวลีถูกเขียนเป็นภาษาสแปนิชเม็กซิกันไว้เช่น “ผลิตในสหรัฐอเมริกา”, “สูบเลยพวก” และ “สายพันธุ์ Topanga”

ที่มา: https://news.artnet.com/art-world/marijuana-weed-art-cannabis-artworks-338428

5.Richard Prince

Richard Prince, Untitled, 2017-2018, Acrylic, charcoal, matte medium, collage, and inkjet on canvas. In frame: 196.2 × 146.7 cm, © Richard Prince, Photo: Rob McKeever, Courtesy Gagosian Gallery

Richard Prince ศิลปินร่วมสมัยระดับโลกที่มีชื่อเสียงจากงาน Appropriation Art เช่น ภาพโฆษณารูปคาวบอยควบม้าของบุหรี่ Marlboro … นับตั้งแต่เขาเปิดตัว “Hippie Drawings” ในช่วงปลายทศวรรษ 1990 ศิลปินก็มีความสนใจในวัฒนธรรมกัญชาอย่างต่อเนื่อง ภาพวาดและภาพปะติดชุด “High Times” ล่าสุดของเขาซึ่งพัฒนามาจาก “Hippie Drawings” ได้ปรากฏบนหน้าปกนิตยสารกัญชาอันโด่งดังอย่าง High Times ถึงสองครั้ง ซึ่งรวมถึงฉบับนักสะสม ตอนนี้ศิลปินได้ก้าวไปไกลกว่านั้นและออกแบบสายพันธุ์กัญชาของเขาเองชื่อ “Katz + Dogg” หลังจากพิธีเปิดนิทรรศการ “High Times” ที่ Gagosian แกลเลอรี่ในซานฟรานซิสโก เขาพาผู้มาชมนิทรรศการไปเล้านจ์กัญชาที่อยู่ห้องถัดไป และให้พวกเขาลองกัญชาตัวอย่างสายพันธุ์ใหม่ “Katz + Dogg” ผลิตภัณฑ์มาในรูปแบบโรลสำเร็จและแบบบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งทั้งสองอย่างนี้มีภาพงานศิลปะของRichardโชว์อยู่บนกล่องบรรจุภัณฑ์

ที่มา: https://news.artnet.com/art-world/richard-prince-teams-with-high-times-550190

6.Tom Sachs

Tom Sachs, Bong Hit Station, 2013. Courtesy Tom Sachs Studio. 
<https://youtu.be/G8bGKhxCBgk>

ศิลปิน Tom Sachs ทำงานทั้งจิตรกรรม ประติมากรรม และงานจัดวาง งานศิลปะส่วนใหญ่ของเขาวิพากษ์วิจารณ์ถึงการคุ้มครองผู้บริโภคโดยนำเสนอสัญลักษณ์บางอย่างมาเป็นสื่อแทน งานศิลปะของเขาได้รับการสะสมทั้งจากพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ชั้นนำของโลกหลายแห่ง

สำหรับผลงานชื่อ ‘Bong Hit Station’ เป็นงานวิดีโอที่ยียวนกวนประสาท ถูกสร้างในปี 2013 ศิลปินแสดงกระบวนการหาของและเมากัญชาโดยละเอียด(ซึ่งก็ซับซ้อนเว่อๆกวนๆ)  ‘Bong Hit Station’ เป็นงานที่ผู้ชื่นชอบศิลปะแนวทดลองและผู้รักกัญชารู้สึกถูกใจเป็นอย่างมากทีเดียว

ที่มา: https://shopgoldleaf.com/blogs/newsfeed/7-brilliant-artists-who-are-integrating-cannabis-based-themes-into-their-art

7. จิตรกรรมฝาผนังที่วัดพระแก้ว

กัญชา เคยฮิตจนติดเทรนด์จิตรกรรมฝาผนังไทยมากว่า 100 ปี เรื่องของกัญชานั้นมีให้เห็นมายาวนาน แม้แต่ในบทประพันธ์ระเด่นลันได ของพระมหามนตรี (ทรัพย์) ที่แต่งขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 ตัวเอกฝ่ายชายทั้ง ระเด่นลันได กับ ท้าวประดู่ คนเลี้ยงวัวล้วนเมากัญชาเป็นกิจวัตร หรือแม้แต่ในนิราศเมืองแกลง ของสุนทรภู่เองยังใส่ท่อนหนึ่งถึงกัญชาไว้ว่า นายแสงหายคลายโทโสที่โกรธาชักกัญชานั่งกริ่มยิ้มละไมความฮิตของกัญชาในอดีตยังปรากฎหลักฐานอยู่ในจิตรกรรมฝาผนัง สำหรับผลงานชิ้นนี้เป็นจิตรกรรมที่ วัดพระแก้วกรุงเทพฯ เขียนไว้เมื่อเกือบ 100  ปีก่อน เป็นรูปลิงในกองทัพพระรามกำลังสูบ กัญชาครึกครื้น บ้องกัญชามี “บัวผัน” เสียบอยู่ไว้ใส่กะเต็นจุดไฟวาบๆ ให้สูบได้ … ในปัจจุบัน มีศิลปินรุ่นใหม่ได้รับอินสปายจากจิตรกรรมฝาผนังเหล่านี้ จนนำมาสร้างงานใหม่ในแนวสตรีทอาร์ตขึ้น เช่น MUEBON เป็นต้น

ที่มา: https://www.sarakadeelite.com/arts_and_culture/cannabis-art/

8.Muebon

ถือเป็นปรากฎการณ์เลยทีเดียวที่ศิลปิน Muebon ได้เปิดตัวนิทรรศการโซโล่ของเขาในวันปลดล็อคกัญชากลางสยามสแควร์จัดแสดงผลงานแนวสตรีทอาร์ตมีเนื้อหาสื่อถึงกัญชาพร้อมทั้งโชว์ดนตรีจากศิลปินหลากหลายในวันเปิดงาน 

นิทรรศการศิลปะ Make Siam Smile Again! โดยศิลปิน MUEBON ที่ได้จัดขึ้นสำหรับการเฉลิมฉลองให้กับความสำเร็จในการต่อสู้เพื่อให้กัญชาถูกกฏหมายและไม่เป็นความผิดทางอาญาอีกต่อไปโดยที่ศิลปิน MUEBON จะพาทุกท่านไปเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อกัญชาผ่านการผจญภัยบนภาพประวัติศาสตร์มาจนถึงปัจจุบันนิทรรศการจัดแสดงที่ Cannabis Museum สยามสแควร์ซอย 2

9.Bigdel

BIGDEL, “Get High”, 2022, Acrylic on Plaswood, 60 x 83 cm.

Bigdel เป็นศิลปินแนวสตรีทอาร์ตรุ่นบุกเบิกของไทยมาพร้อมๆกับ Pakorn BNA และ Alex Face เลยทีเดียว เขาเริ่มต้นตั้งแต่การพ่นสเปรย์ tag ตัวหนังสือบนกำแพงซึ่งถือเป็นกราฟฟิตี้พันธุ์แท้จริงๆ รวมถึงการพ่นคาแรคเตอร์ต่างๆเป็นแนวสตรีทอาร์ต งานของเขามีกลิ่นอายของสตรีทอาร์ตของอเมริกาผนวกกับเรื่องราวแบบไทยๆ ซึ่งเขามักนำเอาเหตุการณ์ในสังคมของไทยช่วงนั้นๆมาเล่น เช่น ความเชื่อในของมงคล อีกทั้งแสดงไลฟ์สไตล์วิถีชีวิตคนเมืองในปัจจุบันอย่างกระแสสังคมเรื่องปลดล็อคกัญชา เป็นต้น ด้วยสไตล์และตัวคาแรคเตอร์อันเป็นเอกลักษณ์ของเขาทำให้คนจดจำได้ หากผ่านไปบนท้องถนนของกรุงเทพฯ เห็นแล้วก็จะรู้ได้ว่าเป็นงานของ Bigdel เสมือนเห็นลายเซ็นของเขาเลยทีเดียว … ผลงาน Get High เป็นชิ้นงานที่สามารถสะสมและแขวนผนังได้ ผลงานไดคัทเป็นรูปทรงของตัวคาแรคเตอร์กัญชาสนุกๆ พร้อมคำเชิญชวนให้มาเก็ทไฮด์กัน งานชิ้นนี้ร่วมแสดงใน Awesome Dude! นิทรรศการรวมศิลปินแนวป็อป สตรีทอาร์ต ณ จอยแมน แกลเลอรี่ กรุงเทพฯ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา

10.Louis Armstrong

หลุยส์ อาร์มสตรอง คือ ตำนานแจ๊สของโลก นักเป่าทรัมเป็ตและนักร้องที่มีชื่อเสียงคนนี้เป็นหนึ่งในนักดนตรีกลุ่มแรกที่ยอมรับอย่างเปิดเผยว่าชื่นชมกัญชา และเขาระบุในอัตชีวประวัติของเขาว่า “กัญชาดีกว่าวิสกี้พันเท่า … มันเป็นทั้งผู้ช่วย ทั้ง เพื่อน” เขามักพูดถึงมันผ่านเพลงของเขา รวมถึงการพูดคุยถึงมันในชีวิตประจำวัน อย่างเช่นในยุคของเขา กัญชา(cannabis)มีชื่อเล่นอีกอันว่า มักเกิ้ลส์(Muggles) ซึ่งมันแค่บังเอิญที่ไปพ้องกับคำในเรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์ของ เจ.เค. โรลลิ่ง เท่านั้น แต่แท้จริงแล้ว หลุยส์ อาร์มสตรอง นำชื่อเล่นของกัญชานี้ มาตั้งเป็นชื่อเพลงของเขาในช่วงต้นทศวรรษที่ 1920 … รับฟังเพลง “Muggles” นี้ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=qY6Yo6lE-Jg

ที่มา: https://greencamp.com/cannabis-and-art/ และ https://hmong.in.th/wiki/Cannabis_culture

11.The Beatles

‘Got to Get You into My Life’ เพลงที่สดใสและเต็มไปด้วยอารมณ์จากอัลบั้ม Revolver ในปี 1966 โดยทั่วไปถือว่าเป็นหนึ่งในเพลงรักที่สนุกสนานของวง The Beatles จากคำกล่าวของ Paul McCartney วัตถุแห่งความรักในกรณีนี้คือ กัญชา ไม่ใช่หญิงสาว เพลงชื่อ ‘Got to Get You into My Life’ เป็นเพลงที่ผมเขียนเมื่อผมได้รับการแนะนำให้รู้จักกับกัญชาครั้งแรก”  ในหนังสือ “Paul McCartney: Many Years from Now” เขาบอกกับ Barry Miles เมื่อปี 1997 ว่าผมเคยเป็นเด็กหนุ่มวัยทำงานที่ค่อนข้างเถรตรงแต่เมื่อเริ่มลองสูบกัญชาดูเหมือนมันช่วยยกระดับจิตใจและมันไม่มีผลข้างเคียงมากเหมือนแอลกอฮอล์หรืออย่างอื่นเช่นการเสพยาเม็ดต่างๆที่ผมควรต้องอยู่ห่างมันไว้ผมชอบกัญชามันไม่ได้สร้างปัญหากับผมและสำหรับผมแล้วมันช่วยแผ่ขยายจิตใจและขยายความคิดอย่างแท้จริงเพราะงั้น ‘Got to Get You Into My Life’ จึงเป็นเพลงที่ไม่ได้เกี่ยวกับหญิงสาวเลยจริงๆแล้วเพลงนี้มันเกี่ยวกับกัญชาและกัญชามันพูดว่าฉันจะทำสิ่งนี้มันไม่ใช่ไอเดียที่แย่หรอก’ ”

ที่มา: https://www.rollingstone.com/music/music-lists/pot-sounds-the-20-greatest-weed-themed-songs-of-all-time-627951/the-beatles-got-to-get-you-into-my-life-1966-2-628022/

12. Bob Dylan

A front cover of Bob Dylan, “Rainy Day Women #12 and 35”
<https://www.cdandlp.com/en/bob-dylan/rainy-day-women-12-35/7inch/r119022400/>

“ผมไม่เคยแต่งและจะไม่มีวันแต่งเพลงเกี่ยวกับยาเสพติด” บ็อบ ดีแลนประกาศกร้าวระหว่างการแสดงดนตรีในตำนานที่รอยัล อัลเบิร์ต ฮอลล์ ในกรุงลอนดอน เมื่อเดือนพฤษภาคม 2509 แต่นั่นก็ไม่ได้หยุดยั้งนักสูบยาหลายชั่วอายุคนหยุดใช้เพลง “Rainy Day Women #12 and 35” ที่อยู่ในอัลบั้ม Blonde on Blonde (ซึ่งขึ้นสู่อันดับสองในชาร์ตบิลบอร์ดซิงเกิ้ลในฤดูใบไม้ผลิปี ’66 ด้วย) มาเป็นเพลงสดุดี  ท่อนคอรัสของเพลงที่ว่า “เราทุกคนควรเมาล่องลอย!” เห็นได้ชัดว่ามีเกี่ยวพันกัน อีกทั้งชื่อเพลงว่า “ผู้หญิงในวันฝนพรำ” นั้นเป็นคำแสลงในแวดวงนักสูบกัญชารุ่นเก่าที่สื่อถึงพันลำหรือกัญชาโรลแบบบุหรี่ – แม้ว่าแวดวงนักสูบกัญชารุ่นใหม่บางคนจะช่วยแก้ให้ว่า 12 คูณ 35 เท่ากับ 420 นะโว้ย อย่างไรก็ตาม ดีแลนก็ยังยืนกรานว่าคำว่า เมาล่องลอย ที่ตั้งคำถามกันนั้น มันเกี่ยวกับคัมภีร์ไบเบิล ไม่ใช่เมากัญชา  “มันไม่น่าแปลกใจเลยที่บางคนจะมองแบบนั้น” เขากล่าวกับสื่อRolling Stoneในปี 2012 “แค่คนเหล่านี้ไม่คุ้นเคยกับข้อความในพระคัมภีร์เท่านั้นเอง”

ที่มา: https://www.rollingstone.com/music/music-lists/pot-sounds-the-20-greatest-weed-themed-songs-of-all-time-627951/bob-dylan-rainy-day-women-12-and-35-1966-628011/

13. Bob Marley

ภายหลัง Exodus อัลบั้มที่สร้างชื่อเสียง ซึ่งเน้นเรื่องศาสนา การเมือง และศรัทธา ถูกออกในปี 1977  Bob Marley ก็ได้ออกอัลบั้มที่ฟังสบายๆ อารมณ์รีแล็กซ์ ชื่อ ‘Kaya’  ซึ่งก็ไม่มีเพลงใดในอัลบั้มนี้ที่เด่นชัดในเรื่องกัญชามากไปกว่าเพลงที่มีชื่อเดียวกันกับชื่ออัลบั้มนี้แล้ว มันเป็นเหมือนบทกวีสรรเสริญที่ใช้ไล่ฝน(ทั้งตามตัวอักษรและเชิงเปรียบเทียบ) อีกทั้งยังเป็นชื่อพืชชนิดหนึ่งอีกด้วย (Marley เคยอธิบายคำว่า ‘Kaya’ ไว้ว่าเป็นคำแสลงของจาไมก้าแปลว่า กัญชา ) เขามักจะตื่นและอบขนมพร้อมกับจังหวะดนตรีที่ไพเราะในหัวใจ หลังจากนั้นเขามักจะพูดออกมาว่า “ตอนนี้ฉันรู้สึกไอรี่ (ภาษาRastafari แปลว่า “รู้สึกดี”) เพราะอะไรน่ะหรือ? “เพราะว่าตอนนี้ฉันเล่นกัญชาอยู่น่ะสิ”

ที่มา: https://www.rollingstone.com/music/music-lists/pot-sounds-the-20-greatest-weed-themed-songs-of-all-time-627951/bob-marley-kaya-1978-628105/

14. Snoop Dog

Snoop Dogg ให้สัมภาษณ์ว่าเขาเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการ “จุดสูบซักตัวก่อนและกินผลไม้ไปด้วย” เขากล่าวต่อไปว่ากัญชาช่วยในเรื่องสุขภาพของเขาได้อย่างไร “กัญชาทำให้ฉันรู้สึกดีและทำให้ฉันมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในฐานะศิลปิน คุณต้องรู้สึกมีแรงบันดาลใจ กัญชาทำให้คุณผ่อนคลายและเปิดใจ” Snoop Dogg พูดถึงกัญชามานานแล้วในเพลงของเขา ที่พูดโต้งๆเลยก็มีเพลง ‘Smoke Weed Everyday’ ลองไปเก็ทไฮด์กับเพลงนี้ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=5QCaaAyz-yA   นอกจากนั้นเขายังเปิดแบรนด์ขายกัญชาชื่อว่า Leafs by Snoop ซึ่งรวมถึงครีเอทกัญชาสายพันธุ์ใหม่ๆด้วย เช่น พายมะนาว พุ่มไม้สีม่วง และแสงเหนือ

ที่มา: https://fromtheearth.com/what-happens-when-art-and-cannabis-collide/ และ https://www.usatoday.com/picture-gallery/entertainment/celebrities/2021/04/20/snoop-dogg-jay-z-martha-stewart-and-more-celebs-cannabis-brands/7281157002/

15. Lady Gaga

twitter @Longtimeladygag , Lady Gaga smoking weed dressed as weed. <https://twitter.com/Longtimeladygag/status/1129893019363270663/photo/1>

Lady Gaga ได้สารภาพกับแฟนๆ ว่าเธอสูบกัญชาบนเวที ซึ่งก่อนหน้านี้เธอก็ได้ยอมรับว่าเป็น “สมาชิกของคลับใบเขียว” และเปิดเผยให้แฟนซึ่งหลายคนยังอายุน้อยได้ฟังว่าเธอสูบกัญชาขณะแสดงที่อัมสเตอร์ดัมอีกด้วย จากวิดีโอที่ถ่ายทำการแสดงในอัมสเตอร์ดัม ได้บันทึกภาพระหว่างหยุดพักการแสดงเอาไว้ มันเป็นภาพเธอกำลังจุดกัญชาและซี้ดควันเข้าสุดปอด นักร้องสาววัย 26 ปี กล่าวชื่นชมยาวิเศษ บอกกับแฟนๆ ว่าเธอเลิกดื่มแอลกอฮอล์เพราะเธอชอบสูบกัญชามากกว่า

นักร้องเพลงฮิต The Born This Way อันโด่งดังยังเปิดเผยว่ากัญชาช่วยให้เธอเข้าถึงดนตรีได้จากมุมมองทาง ‘จิตวิญญาณ’ เธอกล่าวกับหนังสือพิมพ์เดอะซันว่า “ฉันอยากให้คุณรู้ว่ากัญชาเปลี่ยนชีวิตฉันโดยสิ้นเชิง และฉันลดการดื่มลงจริงๆ มันเป็นประสบการณ์ทางจิตวิญญาณอย่างแท้จริงสำหรับฉันกับดนตรีของฉัน มันเหมือนจะบอกว่าทุกคนควรซีี้ดเข้าไปซักที และทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี”

ในขณะที่แฟนๆ บางคนชื่นชมในความกล้าเปิดเผยของ Gaga แต่หลายคนกลับไม่ประทับใจกับพฤติกรรมแปลกประหลาดนี้ของเธอ แฟนคลับกลุ่มหนึ่งได้ทวีตว่า “หยุดดูดกัญชาเถอะ Gaga … ยาเสพติดไม่ต้อง แค่ศิลปะก็พอ…”

ที่มา: https://www.koimoi.com/hollywood-news/when-lady-gaga-smoked-marijuana-on-stage-wanted-then-us-president-barack-obama-to-make-it-legal-in-america/ และ https://twitter.com/Longtimeladygag/status/1129893019363270663/photo/1>


อ้างอิง

#เสรีกัญชา #ศิลปะกับกัญชา #artandcanabis #เก็ทไฮด์ #artinspiration #GetHigh #GetStoned #arttankgroup #arttankmedia #media #press #artmedia #artcontent #tankhappening #artnow #art #visualart #fineart #contemporaryart #artinthailand #artscene #artworld #สื่อศิลปะ #ศิลปะ