top of page
รูปภาพนักเขียนPetch

Tank Weekly Explore 11 - 17 March 2024



ว่าไงสายอาร์ต สัปดาห์นี้เรามีนิทรรศการอีกเพียบมาให้เหล่าคนรักงานศิลปะได้ไปเดินเสพงานกันแบบชิลๆ มีนิทรรศการไหนน่าชมบ้างถ้าพร้อมแล้วก็ไปรับชมกันได้เลย!!


What's up, Art Lovers? This week we have plenty of exhibitions for those who love art to go and enjoy in a relaxed atmosphere. Which exhibitions are worth seeing? If you're ready, let's go check them out!!

.

เริ่มด้วยนิทรรศการ “THE FICTIONAL TRUTH” โดย AITOY กับงานศิลปะชุดมหากาพย์ที่เป็นดังภาษาเพื่อสื่อสาร ตั้งคำถาม ถกเถียง สำรวจความแตกต่าง ความเชื่อและความจำเป็นในการมีอยู่ขององค์กรแห่งศรัทธา ผ่านผลงานจิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ สื่อผสม และวิดีโออินเตอร์แอคทีฟอาร์ต รวมกว่า 30 ชิ้น ต่อด้วยนิทรรศการกลุ่ม “SURIN” ที่รวบรวมงานจากศิลปิน 5 ท่าน มิตร ใจอินทร์, ปริณต คุณากรวงศ์, พิสฐิฎ์กุล ควรเเถลง, อำพรรณี สะเตาะ เเละธนวัฒน์ นุ่มเจริญ และนิทรรศการ “Melodies of Wonder" โดย Hong Jimin ศิลปินชาวเกาหลีใต้ ที่นำคาแรคเตอร์สุดน่ารักจากจิตนาการ มาโลดแล่นในโลกของความเป็นจริง ทั้งประติมากรรมและภาพเพ้นท์ ยังมีนิทรรศการอะไรอีกบ้าง ตามไปรับชมกันได้เลย!!


Starting with the exhibition “THE FICTIONAL TRUTH” by AITOY, featuring an epic collection of artworks that act as a language to communicate, question, debate, and explore differences, beliefs, and the necessity of the existence of an organization of faith. Through paintings, sculptures, prints, mixed media, and interactive video art, there are more than 30 pieces. Next is the group exhibition “SURIN” that brings together works from 5 artists: Mit Jai Inn, Parinot Kunakornwong, Pisitakun Kuantalaeng, Ampannee Satoh, and Thanawat Numcharoen.  The exhibition “Melodies of Wonder" by Hong Jimin, a South Korean artist who brings adorable characters from the imagination to the world of reality, both sculptures and paintings. Let’s go and enjoy them for yourself!!".


__________



“THE FICTIONAL TRUTH” งานแสดงเดี่ยวของ AITOY นิทรรศการที่จัดแสดงผลงานจิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ สื่อผสม และวิดีโออินเตอร์แอคทีฟอาร์ต รวมกว่า 30 ชิ้น กับงานศิลปะชุดมหากาพย์ที่เป็นดังภาษาเพื่อสื่อสาร ตั้งคำถาม ถกเถียง สำรวจความแตกต่าง ความเชื่อและความจำเป็นในการมีอยู่ขององค์กรแห่งศรัทธา ศิลปินเปรียบเปรยถึงการติดกับดักลุ่มหลงความจริงของเรื่องแต่งกับซากวัตถุที่ถูกทิ้งในอวกาศโดยมนุษย์หลังการสำรวจความจริงของจักรวาล ซึ่งการสร้างความเชื่อและการสร้างวัตถุนั้นล้วนถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์เองเพื่อยกระดับปัญญาของมนุษยชาติให้เหนือสัญชาตญานและความเข้าใจที่เคยเป็น

.

วัตถุที่มนุษย์สร้างขึ้นแล้วถูกทิ้งไว้ในห้วงอวกาศเมื่อเลิกใช้งาน เศษซากแห่งนวัตกรรมที่ใช้ในการไขความลับจักรวาล เมื่อหมดหน้าที่ ก็กลายเป็นเศษลอยเคว้งอยู่นอกโลก ครั้นจะพึ่งพาแรงโน้มถ่วงให้ดูดกลับเข้ามาก็ถูกบรรยากาศเผาไหม้จนไม่เหลือซากก่อนที่จะตกถึงพื้น จะขึ้นไปเก็บกวาดก็ดูจะเป็นการสิ้นเปลือง จึงต้องถูกปล่อยอยู่แบบนั้น

.

แต่มนุษย์ไม่ได้ใช้แค่วิทยาศาสตร์เป็นเครื่องมือในการค้นหาความจริงของจักรวาล ระบบความเชื่อที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นหลักพันปี ที่ผลิตเศษเปลือกใยห่อปรัชญาแห่งชีวิตออกมาแบบไม่รู้จบ ยิ่งพัฒนาการของอารยธรรมไปไกลมากเท่าไหร่ ดูเหมือนยิ่งเกินความจําเป็นและบดบังเป้าหมายที่แท้จริงมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อองค์ประกอบคือศรัทธาที่เกิดจาก ความกลัว ความอยาก ความทุกข์ และความหวัง มนุษย์จึงต้องยอมจํานนต่ออํานาจในจินตนาการ อํานาจที่เป็นตัวกําหนดพฤติกรรม ใช้ศีลธรรมเป็นตัวชี้วัดคุณค่า บูชาความดี และ วางท่าแข็งกร้าวเพื่อปลอบประโลมจิตใจที่อ่อนแอ หวังเพียงได้กอดเศษเสี้ยวสวรรค์เอาไว้ในวันที่หมดลมหายใจ

.

อะไรคือความจริงที่ถูกต้อง เมื่อทุกความจริงคือสิ่งที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้น ? ไปร่วมค้นหาคำตอบกันได้ภายในนิทรรศการ

.

.

Location: Joyman Gallery

Hours: 11.00 - 18.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)

รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.facebook.com/JoymanGallery


ขอบคุณรูปภาพจาก: Joyman Gallery


_______


The solo exhibition by AITOY and the epic series of artwork which is a language for communication, questioning, discussion, investigation, and difference. Beliefs and needs for the existence of faith organizations. The artist refers to the trappings of fiction to the remains of objects left in space by humans after exploring the truth of the universe. Beliefs and creations were created by humans to elevate humanity's intelligence beyond instinct and understanding.

.

Man-made objects are left behind in space when they are decommissioned. Innovation debris used to unlock the secrets of the universe. When duty ended it became a floating piece of debris outside the world. When it had to rely on gravity to suck it back in, it was burned up by the atmosphere until there was nothing left before it hit the ground. Going up to clean up seems like a waste. So it had to be left like that. 

.

However, humans do not just use science as a tool to find the truth of the universe. Belief systems that have been created over thousands of years that produce endless fragments of fibers wrapped in the philosophy of life. The further the development of civilization, the more It seems more and more redundant and obscures the real goal. When the elements are faith that arises from fear, desire, suffering, and hope, man must submit to the power of imagination. The power that determines behavior uses morality as a measure of value, worship goodness, and take a tough stance to comfort the weak heart. Hoping only to hold onto this sliver of heaven on the day I take my last breath.

.

.

Location: Joyman Gallery 

Hours: 11:00 PM - 6:00 PM (Closed on Mondays)


Photo credit: Joyman Gallery



นิทรรศการกลุ่ม “SURIN” ที่รวบรวมงานจากศิลปิน 5 ท่าน มิตร ใจอินทร์, ปริณต คุณากรวงศ์, พิสฐิฎ์กุล ควรเเถลง, อำพรรณี สะเตาะ เเละธนวัฒน์ นุ่มเจริญ โดย SURIN เป็นชื่อที่นำมาจากชื่อของคุณสุรินทร์ผู้เป็นที่รักของคนพื้นถิ่นซึ่งได้รับมอบหมายให้ดูเเลมัสยิดหลวงโกชาอิศหาก ในฐานะที่เป็นคนนอกวงการศิลปะ คุณสุรินทร์ได้รับเชิญให้เเบ่งปันมุมมองสดใหม่ไร้ซึ่งการกลั่นกรองที่มีต่องานศิลปะที่ผ่านการคัดสรรมาจัดเเสดงในนิทรรศการนี้ ความเข้าใจอันถ่องเเท้ปราศจากอคติหรือเเนวคิดทางวิชาการตามเเบบเเผน เผยให้เราได้เห็นเรื่องราวลึกซึ้งอันเป็นสากลที่สะท้อนให้เห็นในเเต่ละวัฒนธรรมเเละยุคสมัย.

SURIN เป็นดั่งสิ่งย้ำเตือนความทรงจำอันเเรงกล้าของพลังที่สามารถเเปรผันได้ของศิลปะ ณ ที่เเห่งนี้ เเนวคิดได้มาบรรจบกัน มุมมองได้มาปะทะกัน เเละขอบเขตได้ทลายหายไป ก่อเกิดเป็นเรื่องราวใหม่ๆ เเละหลอมรวมความสัมพันธ์ซึ่งนำพาขีดจำกัดของประเพณีเเละเเบบเเผนก้าวข้ามไปอีกขั้นหนึ่ง

.

.

Location : TARS Unlimited

Hours : 14:00 - 18:00 น. (ปิดวันจันทร์)

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/tarsunlimited


ขอบคุณรูปภาพจาก : TARS Unlimited


________


TARS Unlimited presents SURIN, a group exhibition featuring the works of 5 artists: Mit Jai Inn, Parinot Kunakornwong, Pisitakun Kuantalaeng, Ampannee Satoh, and Thanawat Numcharoen.

.

SURIN takes its name from Khun Surin, a beloved local guardian entrusted with the stewardship of the nearby Luang Kocha mosque. In her role as an outsider to the art world, Khun Surin was invited to share a refreshing and unfiltered perspective on the artworks selected for this exhibition. Her insights, untainted by preconceived notions or academic conventions, shed light on the profound and universal themes that resonate across cultures and generations… Irene Reese

.

.

Location: TARS Unlimited

Hours: 2:00 PM - 6:00 PM (Closed on Mondays)


Photo credit: TARS Unlimited



“Melodies of Wonder" โดย Hong Jimin ศิลปินชาวเกาหลีใต้ ผลงานของเธอได้รับแรงบันดาลใจจากภาพวาดพื้นบ้านของเกาหลี ฮงจีมินถ่ายทอดทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาของเกาหลีในรูปแบบที่ สวยงาม ขี้เล่น และสง่างาม หลังจากย้ายที่อยู่อาศัยและที่ทํางานของเธอมาที่กรุงเทพฯ ศิลปินได้ผสมผสานภูมิทัศน์ธรรมชาติอันมีชีวิตชีวาที่สร้างโดยป่าสีเขียวของเกาหลี เข้ากับภูมิทัศน์ธรรมชาติอันเขียวชอุ่มที่สร้างโดยพืชพรรณหลากสีสันในกรุงเทพฯ เข้าด้วยกัน เติมเต็มทิวทัศน์ดินแดนมหัศจรรย์อันเป็นเอกลักษณ์ของเธอ

.

ผลงานของศิลปินยังมีตัวละครที่สร้างขึ้นจากความทรงจําในวัยเด็กของเธอด้วย ตัวละครเช่น Ho, Shine, Berkin, Roo และ Mel เป็นรูปแบบชีวิตเสมือนจริงที่ค่อยๆ พัฒนาบุคลิกภาพและพัฒนาไปสู่เรื่องราวที่มีเรื่องราว และท้ายที่สุดก็ก่อตัวเป็นโลก ดินแดนมหัศจรรย์ของ Hong Jimin ในแดนมหัศจรรย์ โฮ ไชน์ และเพื่อน ๆ ของพวกเขาประสานกันในขณะที่พวกเขาผจญภัยผ่านป่าและจักรวาล เมื่อรวมกันแล้วพวกเขาจะอบอุ่นและมีความสุขมากขึ้น

.

ภายในนิทรรศการเราจะได้พบกับภาพวาดหลากสีสันและเรื่องราวของมิตรภาพและความสนุกสนาน ในนิทรรศการนี้ เราจะได้เห็นตัวละครอย่าง Happy Mel และ Friendly Berkin ไปผจญภัยในสถานที่ที่สวยงามในจินตนาการ ภาพวาดเหล่านี้เต็มไปด้วยสีสันสดใสและฉากแห่งความสุขที่ รู้สึกเหมือนเป็น music for your eyes

.

งานศิลปะของจีมินจะพาคุณผ่านป่ามหัศจรรย์และค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาว ทําให้คุณรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวที่ยอดเยี่ยม ไม่ใช่แค่การดูภาพวาดเท่านั้น แต่ยังได้ความรู้สึกมีความสุขและประหลาดใจเหมือนอยู่ในโลกแห่งความฝันเต็มไปด้วยจินตนาการ

.

"Melodies of Wonder" เหมาะสําหรับผู้ที่รักเรื่องราว การผจญภัย และความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติ เป็นสถานที่ที่จะลืมความกังวลและดําดิ่งสู่โลกที่มิตรภาพและความสุขอยู่รอบตัว มันคือการเดินทางที่จะทําให้คุณยิ้มและเต็มไปด้วยความอบอุ่น

.

.

Location: Amstutz Music School

รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.facebook.com/chinsgallery


ขอบคุณรูปภาพจาก: Chin's Gallery 


_______


Melodies of Wonder" brings together colorful paintings and stories of friendship and fun. In this show, you'll see characters like Happy Mel and Friendly Berkin going on adventures in beautiful, imaginary places. These paintings are full of bright colors and happy scenes that feel like music for your eyes.

.

Jimin's art takes you through magical forests and starry nights, making you feel like you're part of a wonderful story. It is not just about looking at paintings; it's about feeling happy and amazed, like you're in a dream world where everything is joyful and full of imagination.

.

"Melodies of Wonder" is perfect for anyone who loves stories, adventures, and the magic of nature. It's a place to forget your worries and dive into a world where friendship and happiness are all around. It is a journey that will leave you smiling and filled with wonder.

.

Ji Min Hong (b. 1983) has carved a distinctive niche in the art world. Her journey in art took her from Seoul to Bangkok and then to the School of the Art Institute of Chicago, where she earned a degree in painting. Further honing her skills, she completed a painting program at the Graduate School of Hongik University in Seoul. Jimin's artistic journey spans solo and group exhibitions, animation films, and picture books, all based on her paintings.

.

Drawing inspiration from traditional Korean folk paintings, Jimin portrays the rich and ever-changing natural landscapes of Korea in an unreal but beautiful, playful, and elegant way. After moving her residence and workplace to Bangkok, the artist combined the lively natural landscapes created by the green forests of Korea with the lush natural landscapes created by the colorful plants of Bangkok, completing her unique wonderland scenery.

.

The wonderland scenery created in this manner consists of various colors and patterns that overlap and form layers repetitively. Furthermore, the arrangement of various colors disperses the viewer's gaze across the entire artwork without a precise focal point, making the color-based screen appear even flatter. In addition, the lively rhythm of the

dynamic screen makes it appear wider than the actual space.

.

Her works feature characters created based on her childhood memories. Characters such as Ho, Shine, Berkin, Roo, and Mel are virtual life forms that gradually develop personalities and evolve into entities with stories, ultimately forming a world, Hong Jimin's wonderland. In Wonderland, Ho, Shine, and their friends harmonize with each other as they adventure through the forest and universet. Together, they are warmer and happier.

.

.

Location: Amstutz Music School


Photo credit: Chin's Gallery



Being นิทรรศการจะเป็นภาพถ่ายขาวดำในลักษณะ Low-key photography เพื่อสื่อถึงสภาพการดำรงอยู่ของผู้คนที่มีเพศสภาพ/เพศวิถีแตกต่างจากเพศที่สังคมทั่วไปนิยามว่า “ปกติ” ไม่ว่าในทางกายภาพหรือในแง่ของชีวิตจิตใจ ประมาณ 50 ภาพ โดยนางแบบที่เป็น “ผู้หญิงข้ามเพศ”ทั้งหมด ซึ่งทุกภาพจะเป็นการถ่ายขณะเปลือยกาย เพื่อสื่อและขับเน้นความเป็นมนุษย์ที่มีเลือดเนื้อ มีอารมณ์ความรู้สึกเช่นเดียวกับมนุษย์ทุกเพศ ไม่ว่าจะเป็นความสุข ความเศร้า ความโกรธ ความกลัว ความเจ็บปวด ความหวัง ฯลฯ  มนุษย์ที่มีตัวตน  และดำรงอยู่ ในสังคมเดียวกันกับเราทุกคนตลอดมาไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ชอบก็ตาม 

.

นอกจากศิลปินจะตั้งใจถ่ายทอดผลงานออกมาให้งดงามหรือน่ามอง ด้วยมุมกล้องและแสงเงา ไปพร้อมๆ กับที่มุ่งถ่ายทอดความเป็น “มนุษย์” เพื่อตอกย้ำว่า “ผู้หญิงข้ามเพศ” ล้วนแต่ก็เป็นมนุษย์ไม่ต่างจากเพศอื่นๆ แล้ว ยังต้องการจะสื่อสารต่อผู้รับชมและสังคมด้วยว่า นอกจากโลกใบนี้เต็มไปด้วยผู้คนหลากหลายเพศแล้ว  “Beaty Standard” เองก็หลากหลายเช่นกัน มนุษย์ทุกคน ทุกเพศ ทุกรูปลักษณ์ สามารถสวยงามในแบบของตนเอง ภาคภูมิและเลือกที่จะพิพัฒน์ (develop) ตนเองไปในทิศทางที่เป็นตัวของตัวเองได้  ด้วยเหตุนี้ นางแบบในโครงการนิทรรศการภาพถ่าย “BEING” จึงประกอบด้วยบุคคลในหลากหลายรูปลักษณ์ อายุ อาชีพ

.

นอกจากนางแบบที่เป็นบุคคลทั่วไป ที่เข้าร่วมในโครงการแล้ว ยังมีคนดังอีกหลายคนที่เข้าร่วมเป็นนางแบบรับเชิญด้วย เช่น ชาลีน่า รุ่งเรือง รอง Miss Trans Thailand 2023, ณฑญา เป้ามีพันธ์ Miss Trans Thailand 2023, แพรวไพลิน กสิวัฒนา Miss Trans Thailand 2022 และ Miss Universe trans Thailand 2023, ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ ผู้กำกับภาพยนตร์/ละคร และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร, ปารมี ไวจงเจริญ สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล, รวมถึงสาวข้ามเพศคนดัง นัท นิศามณี หรือ นัทสะบัดแปรง ก็เข้าร่วมเป็นนางแบบรับเชิญด้วยเช่นกัน

.

นิทรรศการครั้งแรก (ครั้งที่ 1) จะจัดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม 2567 รวมทั้งในวันที่ 8 มีนาคม ซึ่งเป็น #วันสตรีสากล เพื่อบ่งบอกว่า “ผู้หญิงข้ามเพศ” ก็คือ “ผู้หญิง” หรือ “สตรี” ในแบบหนึ่ง เพียงแต่อาจจะไม่ใช่แบบที่สังคมกระแสหลักคุ้นเคยเท่านั้นเอง  ทั้งพวกเธอและเพศอื่นๆ ต่างก็ดำรงอยู่ในสังคม อยู่บนโลกใบนี้ในฐานะมนุษย์ ที่ควรจะเท่าเทียมกันทั้งในแง่ของสิทธิและศักดิ์ศรี ก่อนจะจัดแสดงครั้งที่ 2 ในช่วงเดือนมิถุนายน 2567 หรือ Pridemonth เดือนแห่งความภาคภูมิใจของความหลากหลายทางเพศทั่วโลก โดยจะจัดขึ้นพร้อมกันทั้งที่ กรุงเทพ และ เชียงใหม่

.

.

Location : Atrium 1, G Floor, Siam Center

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/BeingGroup2023


ขอบคุณรูปภาพจาก : BEING Group 


_______


The exhibition will feature black and white photographs in the style of Low-key photography to convey the existence of people whose gender identity/expression differs from what society generally defines as 'normal,' whether physically or in terms of mental and emotional life. Approximately 50 images by models who are all 'transgender women.' Each image will be taken while nude to express and emphasize the humanity that has flesh and blood, emotions and feelings just like every gender, whether it's happiness, sadness, anger, fear, pain, hope, etc. Humans have an existence and have always lived in the same society with all of us whether we like it or not.


In addition to the artist's intention to make the work beautiful or appealing through camera angles and lighting, while simultaneously conveying 'humanity' to emphasize that 'transgender women' are humans no different from other genders, there is also a desire to communicate to the audience and society that besides this world is full of people of various genders, the 'Beauty Standard' itself is diverse as well. Every human, of every gender, of every appearance, can be beautiful in their way and be proud and choose to develop themselves in the direction that is true to themselves. For this reason, the models in the 'BEING' photography exhibition project are comprised of individuals of various appearances, ages, and professions.


In addition to the regular participants in the project, many celebrities also joined as guest models, such as Charlenar Rungrueang, the runner-up Miss Trans Thailand 2023; Nataya Paomephan, Miss Trans Thailand 2023; Praewphalin Kasiwatthana, Miss Trans Thailand 2022 and Miss Universe Trans Thailand 2023; Tanwarin Sukkhapisit, a film/drama director and former member of the House of Representatives; Paramee Waichongcharoen, a Move Forward Party list MP; as well as the famous transgender beauty Nutt Nisamanee, also known as Nutt Brushstroke, who also joined as a guest model.


The first exhibition (1st edition) will be held in March 2024, including on March 8, which is International Women's Day, to signify that "transgender women" are "women" or "females" in one form, just perhaps not in the form that mainstream society is accustomed to. They, and all other genders, exist in society, on this planet as humans who should be equal in terms of rights and dignity. The second exhibition will be held in June 2024, or Pride Month, a month of global pride in sexual diversity, and will take place simultaneously in Bangkok and Chiang Mai.



“Is One Thing Better Than Another” นิทรรศการเดี่ยวของศิลปินชาวแอฟริกาใต้ Zach Zono ซึ่งเป็นผลลัพธ์ของการเข้าร่วมโครงการศิลปินพำนักที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย เป็นเวลาหนึ่งเดือน ภาพวาดนามธรรมเหล่านี้สะท้อนประสบการณ์อันเข้มข้นที่เขาสัมผัสได้จากมหานครอันเต็มไปด้วยชีวิตชีวา

.

การสำรวจภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมของกรุงเทพฯ ของโซโนนั้น ปรากฏชัดเจนผ่านการใช้สีสันสดใสที่เชื่อมโยงกับความเชื่อของคนไทย สีสันเหล่านี้กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของนิทรรศการ ก่อให้เกิดการผสมผสานรากฐานทางวัฒนธรรมแอฟริกาใต้ของเขากับอิทธิพลอันงดงามของประเทศไทยเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน

.

.

Location : MATDOT Art Center

Hours : 10:00 – 18:00 น.

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://web.facebook.com/matdotart


ขอบคุณรูปภาพจาก : MATDOT Art Center


_______


MATDOT Art Centerpresents a solo exhibition by South African artistZach Zono.Executed during a one-month residency inBangkok, Thailand, this exhibitionencapsulates Zono's immersive experience in the vibrant city.

.

Zono's exploration of Bangkok's cultural landscape is evident in his incorporation of thevivid colors associated with Thai beliefs. These hues become a vitalelement of the exhibition,infusing the collection with a harmonious blend of his South African roots and the vibrant influencesof Thailand.

.

.

Location: MATDOT Art Center

Hours: 10:00 AM - 6:00 PM


Photo credit: MATDOT Art Center



Crossing the Dateline & Current Expansion: นักข้ามเวลาและปัจจุบันยืดขยาย นิทรรศการกลุ่ม กับผลงานของ 15 ศิลปินไทย และ 4 ศิลปินต่างประเทศ Mr.Menno Aden (เยอรมันนี), Mrs.Hanna Hollmann (ออสเตรีย), Mrs.Genevieve Diamant (สหรัฐอเมริกา), Mr.Philipp Messner (อิตาลี), คมสัน หนูเขียว, กุลชาณัช เติมประยูร, ณัฐณรัณ บัวลอย, ณัฐพล ชัยวรวัฒน์, นิพันธ์ โอฬารนิเวศน์, นิธิพัฒน์ หอยสังข์ทอง, โอภาษจรัส นันทวัน, พศุตม์ กรรณรัตนสูตร, ภานุ สรวยสุวรรณ, ปิติวรรธน์ สมไทย, เสกสรรค์ ตันยาภิรมย์, สุขสันต์ นนฤาชา, ศุภพงศ์ เหล่าธีรศิริ, ถนอมนวล เดชาวงศ์, วนิดา พรสมบัติไพบูลย์ 

.

โดยแนวคิดทั้งหมดของศิลปินได้อธิบายมุมมอง การมองโลกที่แตกต่างกันภายใต้หัวข้อ นักข้ามเวลาและ ปัจจุบันยืดขยาย หรือ Crossing the Dateline & Current Expansion ที่ ๆ ซึ่งความแตกต่างทาง ความคิด และปรัชญาการมองโลกของเขาทั้งหลายในการแสดงกลุ่มในครั้งนี้ จะช่วยให้ผู้ชื่นชมผลงานได้ ตระหนักถึงมุมมอง และเป็นส่วนหนึ่งของสักขีพยานด้วยที่ว่า เราต่างอาศัยในโลกดั่งนักข้ามเวลาและ ปัจจุบันยืดขยาย ที่ซึ่งต่างก็อาศัยในโลกที่อยู่ในเอกภพอันมีแรงโน้มถ่วงผ่านตัวกลางของแรงชนิดต่าง ๆ ใน กาลเวลาอวกาศแห่งนี้ด้วยกัน

.

โครงการดังกล่าวเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างคณาจารย์จาก 2 สถาบันการศึกษา ได้แก่ คณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ศิลปินอิสระ และศิลปินต่างประเทศจากสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี สาธารณรัฐอิตาลี สาธารณรัฐออสเตรีย และสหรัฐอเมริกา เพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาในประเทศไทยและต่างประเทศ และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การสร้างสรรค์งานศิลปะของศิลปิน

.

.

Location : หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน 

Hours : 10:00 – 19:00 น. (ปิดวันจันทร์)

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://web.facebook.com/matdotart


ขอบคุณรูปภาพจาก : RCAC BKK


__________


Crossing the Dateline & Current Expansion: A group exhibition with the works of 15 Thai artists and 4 foreign artists: Mr. Menno Aden (Germany), Mrs. Hanna Hollmann (Austria), Mrs. Genevieve Diamant (USA), Mr. Philipp Messner (Italy), Komsan Nookiew, Kulchrnut Termprayul, Natnaran Bualoy, Natthaphon Chaiworawat, Nipan Oranniwesna, Nithiphat Hoisangthong, Ophascharas Nandawan, Pasutt Kanrattanasutra, Panu Suaysuwan, Pitiwat Somthai, Sakesan Tonyapirom, Suksan Nonruecha, Supapong Laodheerasiri, Thanormnuan Dechakaneewong, Vanida Pornsombatpaiboon.


The description of the exhibition states that the overall concept presented by the artists explains different worldviews under the theme "Crossing the Dateline & Current Expansion." It suggests that the variety of thoughts and philosophical perspectives of the artists will help the audience to become aware of and be a part of the testimony that we all live in a world akin to that of time travelers and an expanding present, in a universe with gravity acting through various forces in this space-time continuum.


The mentioned project is a collaboration between faculty members from 2 educational institutions, namely the Faculty of Architecture, Art and Design, King Mongkut's Institute of Technology Ladkrabang, and the Faculty of Fine and Applied Arts, Burapha University, independent artists, and international artists from the Federal Republic of Germany, the Italian Republic, the Austrian Republic, and the United States of America. This is to create cooperation between educational institutions in Thailand and abroad, as well as to exchange experiences of artistic creation among artists.



เมื่อตอนที่ผมยังเป็นเด็ก ผมเคยเดินคนเดียวอย่างไร้จุดหมาย และไม่นานผมก็ออกจากเมืองไป ในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว ทุ่งนาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือว่างเปล่าและเงียบสงบ ผมมองเห็น เส้นขอบฟ้าโดยไม่มีสิ่งกีดขวาง และดูเหมือนจะมีอาคารรูปทรงคล้ายหลังคาวัดอยู่ไกลออกไป ในขณะนั้น ผมคิดว่าผมเห็นหอคอยเทียนอันเหมินสีทองอร่ามซึ่งมักจะปรากฎในรูปภาพตามสถานที่ต่างๆ จนถึงทุกวันนี้ เมื่อผู้คนพูดถึงเทียนอันเหน ภาพจำดังกล่าวจึงเป็นสิ่งแรกที่เข้ามาในความคิด มันเป็นการปรากฎตัวที่ทรงพลังในความทรงจำที่ทั้งสมจริงและลึกลงไปในจิตวิญญาณของผม มากเสียกว่าหอคอยเทียนอันเหมินของจริงในเมืองปักกิ้ง เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วทำให้นึกถึงภาพจำในวัยเด็ก นุษย์นั้นไม่มีนัยสำคัญเท่ากับชีวิตที่ เราเรียนรู้บนโลกนี้ ในบรรดาสิ่งต่างๆ ที่ถูกสร้างจากมนุษย์ทั้งในอดีต และปัจจุบัน ผมไม่คิดว่ามีความประณีตหรือยิ่งใหญ่ใดๆ เลย เพราะ สิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกล้วนมีโครงสร้างที่ไม่มีใครเทียบได้ เหมือนกับจักรวาลและหน้าที่ของมัน มนุษย์ ดอกเดชี ไส้เดือน หรือต้นกล้วยสิ่งมีชีวิตทุกชนิดต่างสื่อสารกันด้วยภาษาเฉพาะที่ยากจะเข้าใจ เช่นเดียวกับภาษาของฤดูใบไม้ผลิที่เป็นมากกว่าการเบ่งบานของดอกไม้ ฤดูร้อนที่เป็นมากกว่าความอบอุ่น ฤดูใบไม้ร่วงที่เป็นมากกว่าฤดูการเก็บเกี่ยวผลไม้ และฤดูหนาวที่เป็นมากกว่าน้ำค้างแข็ง เมื่อโลก ถูกจดจำ ใส่ใจ และระลึกถึง เท่านั้น โลกจึงจะเกิดขึ้นได้ แม้แต่โลกและ เวลาที่เคลื่อนตัวอย่างอิสระก็เป็นอีกหนึ่งความเป็นไปได้ของโลก

.

.

Location : BTU Gallery 

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/btugallery


ขอบคุณรูปภาพจาก : BTU Gallery 


_______


When I was a child, I once walked aimlessly alone, and soon | left the city. In autumn and winter, the fields in the Northeast were empty and silent. I could see the horizon without any hindrance. There seemed to be a building like a temple roof in the distance. At that moment, I thought I saw the shining golden Tiananmen Rostrum that often appears in pictures. . To this day, when people talk about Tiananmen, this scene is the first thing that comes to my mind. It is an extremely powerful presence in my memory. It is more real and deeper into my soul than the Tiananmen Tower in Beijing. Time flies and goes straight to

the childhood. Human beings are as insignificant as the life we know on earth. Among all human creations in the past and today, I don't think there is any exquisiteness or

grandeur, but every living thing on earth has an incomparable structure like the universe. and mission.

Human beings, daisies, earthworms or banana trees, every living thing speaks a language that we cannot understand, just as the language of spring is more than flowers, summer

is more than warmth, autumn is more than fruits, and

winter is more than frost.

.

.

Location: BTU Gallery 


Photo credit: BTU Gallery

.

.

_________

You can read the content in both Thai and English on the website:

Send us your Art news for PR here: media@arttankgroup.co.th


Art Tank Group offers comprehensive services to the Art Ecosystem (Art auction, Art Handling, Art conservation, media, and events) https://www.arttankgroup.co.th


Contact number: 061-626-4241



ดู 14 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page