ว่าไงสายอาร์ต! เข้าสู่ต้นเดือนกุมภาพันธ์กันแล้ว สัปดาห์นี้เราจะพาทุกท่านดำดิ่งสู่โลกของศิลปะที่เต็มไปด้วยอารมณ์ ความทรงจำ และการตั้งคำถามต่อความเป็นตัวเอง ทั้งในกรุงเทพและเชียงใหม่ จะมีนิทรรศการอะไรน่าสนใจบ้าง ตามไปชมกันเลย!!
.
เริ่มจากนิทรรศการ “Like You Never Left” นิทรรศการที่สำรวจความทรงจำและความคิดถึง ผ่านศิลปิน 10 คนที่ถ่ายทอดเรื่องราวของ “ที่ที่เคยมีเธอ” สะท้อนอารมณ์โหยหาและการไม่อาจลบเลือนความสัมพันธ์ในอดีต ต่อด้วย “INFERNO” โดย October29 เปิดประตูสู่นรกในมุมมองใหม่ผ่านลายเส้นจัดจ้านของ October29 กับผลงานที่สะท้อนการปลดปล่อยตัวตนและการเปลี่ยนผ่านสู่เส้นทางศิลปะที่เป็นอิสระอย่างแท้จริง และนิทรรศการจากเชียงใหม่ “we are wearing out our own skin”
นิทรรศการที่ท้าทายแนวคิด Post-feminism สำรวจอัตลักษณ์และเพศสภาพ ผ่านมุมมองของศิลปินหญิงรุ่นใหม่ที่ถ่ายทอดความเปลี่ยนแปลงและการยอมรับตัวตนอย่างลึกซึ้ง ยังมีนิทรรศการอะไรที่น่าสนใจอีกบ้าง ถ้าพร้อมแล้วตามมารับชมกันได้เลย!!
เราเคยมีสถานที่หนึ่งที่เต็มไปด้วยเรื่องราวกับใครบางคน—สถานที่ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ภาพของมันยังคงแจ่มชัดในใจ ราวกับว่า ‘เธอ’ ไม่เคยจากไปไหน ความทรงจำเหล่านั้นไม่เพียงแค่ถูกบันทึกไว้ในใจเรา แต่ยังสะท้อนผ่านสิ่งรอบตัว กลิ่น เสียง รสสัมผัส หรือแม้แต่แสงและเงา ทุกอย่างล้วนพาเราย้อนกลับไปสู่ช่วงเวลาที่เหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน
.
“ที่ ๆ เคยมีเธอ” (Like You Never Left) เป็นนิทรรศการพิเศษที่จัดโดย RCB Experimental Art Lab โปรเจกต์จาก ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ร่วมกับ บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ นักแสดงและนักสะสมศิลปะ ที่นำความรู้สึกแห่งความผูกพัน ความคิดถึง และการลาจากมาแปรเปลี่ยนเป็นภาพแทนแห่งศิลปะผ่านฝีมือของ 10 ศิลปินผู้เชี่ยวชาญด้านการถ่ายทอดอารมณ์ ได้แก่ Art Jeeno, อาริญญา กันธิโน, ชนนภัส ยกใหญ่, give.me.museums, Keng Jeans, Munins, Noinah, SUNTUR, วิชุดา ขันติจิตร และ Wood you mind ทุกชิ้นงานล้วนเป็นภาพสะท้อนของสถานที่ที่เคยมีใครบางคนอยู่ร่วมกับเรา ก่อนที่วันหนึ่งจะเหลือเพียงความทรงจำที่ไม่เคยจางหาย
.
นิทรรศการครั้งนี้ไม่เพียงนำเสนอเรื่องราวของ ‘การลาจาก’ แต่ยังเปิดพื้นที่ให้ผู้ชมได้สำรวจและไตร่ตรองความรู้สึกของตนเอง ว่าความทรงจำที่ติดค้างอยู่ภายในใจนั้นช่วยหล่อเลี้ยง หรือฉุดรั้งเราจากการก้าวไปข้างหน้าหรือไม่ ผ่านการตีความของศิลปินแต่ละคน ที่ถ่ายทอดทั้ง ความสุข ความหอมหวาน ความเปราะบาง และความเจ็บปวดของการสูญเสีย ผ่านสื่อและเทคนิคศิลปะที่แตกต่างกัน บางชิ้นสะท้อนความอ้างว้าง บางชิ้นเต็มไปด้วยสีสันของความทรงจำ และบางชิ้นอาจพาเรากลับไปยืนอยู่ในสถานที่เดิมอีกครั้ง
.
“Like You Never Left” จึงไม่ใช่เพียงนิทรรศการศิลปะ แต่เป็นพื้นที่สำหรับการระลึกถึงและปล่อยวาง เป็นการเดินทางกลับไปยังที่ ๆ เคยมีเธอ เพื่อทบทวนความรู้สึก และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ที่จะก้าวต่อไป พร้อมกับรอยยิ้มแห่งความทรงจำ
.
.
Location: RCB Galleria 4, 2nd floor, River City Bangkok
Hours: 11:00 – 20:00 น.
รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.facebook.com/RiverCityBangkok/
ขอบคุณรูปภาพจาก: River City Bangkok
“INFERNO” นิทรรศการเดี่ยวครั้งสำคัญของ October29 ที่จะพาผู้ชมเข้าสู่โลกใหม่ที่แตกต่างจากภาพจำเดิมของศิลปิน การตีความ “นรก” ในครั้งนี้ไม่ใช่เพียงสถานที่แห่งความทุกข์ แต่เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนผ่าน การปลดปล่อย และการเผชิญหน้ากับตัวตนในรูปแบบที่แท้จริง October29 หรือ แพน-ฐกฤต ครุธพุ่ม ศิลปินที่มีประสบการณ์ในวงการศิลปะมากว่า 10 ปี ได้สร้างชื่อจากการร่วมงานกับแบรนด์ชั้นนำและการสร้างสรรค์ผลงานที่โดดเด่น ครั้งนี้เขากลับมาพร้อมกับผลงานที่สะท้อนความเปลี่ยนแปลงของตัวเองในฐานะศิลปิน
.
ภายในนิทรรศการ ผู้ชมจะได้พบกับการตีความใหม่ขององค์ประกอบที่เป็นเอกลักษณ์ของ October29 อย่าง “เฮเล” กระต่ายสีดำที่เป็นตัวแทนของตัวตนและความเชื่อที่แฝงอยู่ในงานของเขา แต่ครั้งนี้เธออาจมาพร้อมกับสัญลักษณ์ที่เข้มข้นขึ้น สีสันที่ท้าทายกว่าเดิม และการเล่าเรื่องที่ลึกซึ้งมากขึ้น ผลงานในชุดนี้เป็นภาพสะท้อนของการปลดพันธนาการจากกรอบเดิม สู่ความเป็นอิสระที่ศิลปินสร้างขึ้นเอง
.
นิทรรศการนี้ไม่เพียงเป็นการสำรวจแนวคิดเรื่องนรก แต่ยังเป็นการตั้งคำถามถึงขีดจำกัดของศิลปะและการเปลี่ยนแปลงของตัวศิลปินเอง ความหลงใหลในเรื่องราวตำนาน ความเชื่อ และแสงไฟยังคงอยู่ แต่ถูกนำเสนอผ่านมุมมองที่ซับซ้อนขึ้น ด้วยสไตล์และเทคนิคที่พัฒนาไปอีกระดับ ผู้ชมจะได้เห็นความสดใหม่ของศิลปินที่ไม่เคยหยุดพัฒนา พร้อมกับสัมผัสความเข้มข้นของอารมณ์และความหมายที่แฝงอยู่ในทุกชิ้นงาน
.
“INFERNO” เปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ - 18 มีนาคม 2568 ณ RCB Photographers’ Gallery และ RCB Galleria 3 นิทรรศการนี้เป็นมากกว่าการแสดงผลงาน แต่เป็นการเดินทางของศิลปินที่เผยให้เห็นด้านใหม่ของตัวเอง พร้อมเชิญชวนผู้ชมให้สำรวจและตั้งคำถามถึงความหมายของ “นรก” ในมุมมองที่ต่างไปจากเดิม
.
.
Location: RCB Photographers’ Gallery & RCB Galleria 3, River City Bangkok
Hours: 11:00 – 20:00 น.
รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.facebook.com/RiverCityBangkok/
ขอบคุณรูปภาพจาก: River City Bangkok
ในยุคที่ความแตกต่างทางอัตลักษณ์ถูกเปิดเผยและท้าทายมากขึ้นเรื่อยๆ “we are wearing out our own skin” คือนิทรรศการที่นำเสนอโดยศิลปินหญิงรุ่นใหม่ 3 คน วิลาวัลย์ เวียงทอง, อําพรรณี สะเตาะ และ อภิชญา วรรณกิจ ซึ่งกำลังเดินบนเส้นทางของการเป็นพลเมืองโลก ผ่านประเด็นร่วมสมัยเกี่ยวกับอัตลักษณ์ ความหลากหลาย และการดำรงอยู่ร่วมกันในสังคมที่ยังคงเต็มไปด้วยกรอบจำกัดทางความคิด นิทรรศการนี้หยิบยกแนวคิด “หลังสตรีนิยม” (Post-feminism) ซึ่งเป็นประเด็นที่ยังคงมีข้อถกเถียงมากมายเกี่ยวกับบทบาทของผู้หญิงในโลกปัจจุบัน แนวคิดนี้ไม่ได้หมายถึงการสิ้นสุดของสตรีนิยม แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงและทบทวนว่า การสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของผู้หญิงกลุ่มเดียว หรือกลุ่มที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความหลากหลายและเงื่อนไขเฉพาะตัวของแต่ละบุคคล
.
นิทรรศการนี้ตั้งคำถามต่อแนวคิดดั้งเดิมเกี่ยวกับเพศสภาพและความเสมอภาค ความหมายของ unapologetic หรือ “การเป็นตัวของตัวเองโดยไม่ต้องขอโทษ” กลายเป็นแนวคิดสำคัญในโลกที่อัตลักษณ์หลากหลายถูกพูดถึงอย่างเปิดเผย we are wearing out our own skin เป็นพื้นที่ทดลองที่เปิดให้ผู้ชมได้สำรวจว่า สังคมสามารถก้าวข้ามแนวคิดชายเป็นใหญ่ได้จริงหรือไม่ และแนวคิดสตรีนิยมเองก็ต้องได้รับการทบทวน เพื่อไม่ให้กลายเป็นอีกหนึ่งกรอบที่จำกัดอัตลักษณ์ของผู้คน
.
ผลงานในนิทรรศการนี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายของเพศสภาพ ไม่ใช่เพียงแค่ในเรื่องสิทธิและบทบาททางสังคม แต่ยังรวมถึงมิติที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เช่น ชนชั้น โครงสร้างเศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล กำแพงที่ขวางกั้นความเข้าใจระหว่างกันยังคงมีอยู่ในหลายมิติ และนิทรรศการนี้พยายามชี้ให้เห็นถึงเส้นทางที่ต้องก้าวข้ามไปเพื่อสร้างความเข้าใจที่แท้จริง
ในท้ายที่สุด we are wearing out our own skin ไม่ได้เพียงแค่เรียกร้องให้สังคมปลดปล่อยผู้หญิงจากแนวคิดชายเป็นใหญ่เท่านั้น แต่ยังตั้งคำถามว่า แนวคิดสตรีนิยมในอดีตเองก็ควรถูกพิจารณาใหม่ เพื่อให้ทุกคน—ไม่ว่าจะแสดงออกทางเพศแบบใด—สามารถดำรงอยู่ได้อย่างเป็นอิสระ ปราศจากการถูกตีตราหรือจำกัดด้วยกรอบของอดีต
.
.
Location : Jing jai Gallery, Chiang Mai
“Homecoming” คือนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกในเอเชียของ Swoon (Caledonia Curry) ศิลปินสตรีทอาร์ตระดับโลก ผู้ที่เริ่มต้นจากการติดภาพเหมือนบนกำแพงนิวยอร์ก จนกลายเป็นศิลปินที่มีผลงานจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ชั้นนำ เช่น MoMA, Brooklyn Museum และ Tate Modern นิทรรศการครั้งนี้สะท้อนถึงเส้นทางชีวิตของ Swoon จากอดีตที่ท้าทาย สู่การใช้ศิลปะเป็นพลังแห่งการเยียวยาและการเปลี่ยนแปลงสังคม
.
กรุงเทพฯ เคยเป็นแรงบันดาลใจให้เธอสร้าง “Swimming Cities of Serenissima” (2552) โปรเจกต์เรือประติมากรรมจากวัสดุเหลือใช้ที่แล่นเข้าสู่ Venice Biennale ศิลปะของ Swoon ไม่ได้หยุดอยู่ที่การสร้างภาพ แต่ยังขยายไปถึงโครงการเพื่อสังคม เช่น Heliotrope Foundation ที่ช่วยสร้างบ้านในเฮติ และ Music Box Village ในนิวออร์ลีนส์ งานของเธอพิสูจน์ว่าศิลปะสามารถเป็นเครื่องมือในการเปลี่ยนแปลงชุมชนได้อย่างแท้จริง
.
“Homecoming” นำเสนอผลงานระดับมาสเตอร์พีซ “Cicada” (2020) ที่ผสาน วิดีโออาร์ต และ ประติมากรรมหุ่นสต็อปโมชัน ถ่ายทอดเรื่องราวของการเกิดใหม่และการฟื้นคืนชีพ นอกจากนี้ ยังมีผลงานชุดล่าสุดที่เธอสร้างขึ้นระหว่างพำนักที่ SAC Residency เชียงใหม่ ซึ่งเป็นความร่วมมือกับช่างฝีมือท้องถิ่น เปลี่ยนซากปรักหักพังจากภัยน้ำท่วมให้กลายเป็นศิลปะ สื่อถึงวัฏจักรของการสูญเสียและการเริ่มต้นใหม่
.
นิทรรศการยังมีภาพพิมพ์หินที่สร้างสรรค์ร่วมกับ Hello Print Friend Studios ถ่ายทอดแนวคิดเรื่องการกลับคืนสู่รากเหง้า ผ่านเทคนิคตัดกระดาษ ลายเส้นอันทรงพลัง และทองคำเปลวที่เพิ่มมิติให้กับงาน ห้ามพลาด!!
.
.
Location : SAC Gallery
Hours : 11:00 - 18:00 น. (ปิดวันอาทิตย์ และวันจันทร์)
รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/sacbangkok
ขอบคุณรูปภาพจาก : SAC Gallery
นิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกของ วัชรพล ขันทอง หรือ สายลม ศิลปินต้องการถ่ายทอดผลงานที่แสดงให้เห็นถึงสีสัน ความหลากหลายผ่านช่วงเวลาหนึ่งของมนุษย์ ความฝัน และธรรมชาติ สิ่งเรียบง่ายที่รายล้อมเราจนก่อให้เกิดความสัมพันธ์ และความรัก ด้วยความยุ่งเหยิงสับสนในการใช้ชีวิตประจำวันอาจทำให้จิตใจดำดิ่งจนหมองหม่น ศิลปินจึงมีทัศนะผ่านภาพฝันที่เต็มไปด้วยสีสัน และความหลากหลายผ่านเอกลักษณ์ของแต่ละบุคคล ที่ได้เข้ามาแต่งแต้ม และทิ้งสีสันไว้ในหัวใจ ทำให้ศิลปินตระหนักว่าความรักของผู้คนต่อสิ่งต่าง ๆ รอบตัว เปรียบเสมือนโทนสีที่คอยส่งเสริมซึ่งกันและกัน ท้ายที่สุดจะปรากฏความงามด้วยของมันเอง จากช่วงเวลาในชีวิตที่เคยขมขื่นแปรผันเป็นความชื่นชม ด้วยความไม่พิเศษทั้งมวล ทำให้รู้สึกถึงความอบอุ่นอันแสนธรรมดา
.
ด้วยเหตุนี้ศิลปินจึงส่งต่อพลังแห่งสีสันชีวิตผ่านงานวาดที่ล้วนเป็นประสบการณ์ที่ทุกคนเคยพบเจอ อาจเพียงไม่ได้ชื่นชมความธรรมดาของช่วงชีวิตไป เพื่อให้ผลงานเหล่านี้ปลอบโยน และมอบสีสันในการใช้ชีวิตให้ทุกท่านต่อไป
.
.
Location : Mini Xspace Gallery (Fl.2)
Hours : 10:00 - 17:00 น. (ปิดวันอาทิตย์)
รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/Xspaceartgallery
ขอบคุณรูปภาพจาก : Xspace
สัมผัสพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงของศิลปะในนิทรรศการ “Journey Through the Mind’s Eye” โดย Bertrand Gossart และ สิทธิธรรม โรหิตะสุข นิทรรศการนี้นำเสนอแก่นแท้ของภาพวาดทิวทัศน์ที่สะท้อนทั้งโลกภายนอกและภายในของศิลปิน ผลงานของพวกเขาเผยให้เห็นถึงการแลกเปลี่ยนมุมมองและความรู้สึกทางสุนทรียะอย่างเป็นพลวัตราวกับบทสนทนาส่วนตัว ศิลปินสามารถกระตุ้นอารมณ์อันลึกซึ้ง ความคิดที่ซ่อนอยู่ และเรื่องราวที่ไม่อาจเอ่ยออกมาได้ผ่านสีสันสดใส ฝีแปรงที่สื่ออารมณ์ พื้นผิวที่ซ้อนทับกันและการตัดทอนโดยตั้งใจ นิทรรศการเชิญชวนให้ผู้ชมออกเดินทางสู่การตีความส่วนตัว ความทรงจำ การสำรวจอารมณ์ และขยายขอบเขตของจินตนาการ ดื่มด่ำไปกับการเดินทางที่ไม่รู้จบผ่านภาพทิวทัศน์ที่ส่งผ่านมาจากจิตใจและจิตวิญญาณ
.
.
Location : Mini Xspace Gallery (Fl.2)
Hours : 10:00 - 17:00 น. (ปิดวันอาทิตย์)
รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/Xspaceartgallery
ขอบคุณรูปภาพจาก : Xspace
Alter Ego คือนิทรรศการศิลปะที่พาผู้ชมดำดิ่งสู่มิติอันซับซ้อนของตัวตน ผ่านมุมมองของศิลปิน 4 คน ได้แก่ BannanaManz, BUTTERRABBITZ & SURREALRABBITZ, เอกรัตน์ อรุณรัตน์ และ พิชญ์ แตงพันธ์ ซึ่งแต่ละคนได้นำเสนอความเป็นตัวเองผ่านผลงานที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์ ความทรงจำ และความสัมพันธ์กับยุคสมัย ในมิติที่อาจไม่สามารถมองเห็นได้ในชีวิตประจำวัน
.
ศิลปินแต่ละคนเลือกใช้เทคนิคและแนวทางที่แตกต่างกันในการถ่ายทอด Alter Ego ของตนเอง บางคนเลือกใช้วิธีที่เรียบง่าย เช่น สีไม้ เพื่อออกแบบคาแรคเตอร์ที่น่าทึ่ง ขณะที่บางคนหยิบเอาความทรงจำในอดีตมาส่องสะท้อนเป็นผลงานศิลปะที่ยังคงเปล่งประกายมาถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีการใช้สัญลักษณ์และองค์ประกอบที่รักมาร้อยเรียงเป็นประติมากรรมที่ดูคล้ายของเล่น แต่แฝงไปด้วยความหมายทางศิลปะ รวมถึงการสำรวจสภาวะจิตใจของผู้หญิงในช่วงเวลาที่เปลี่ยนผ่านจากวัยเด็กสู่วัยสาว
.
นิทรรศการครั้งนี้ยังถือเป็นบทใหม่ของ La Lanta @ River City Bangkok ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางศูนย์รวมศิลปะชั้นนำของกรุงเทพฯ เปิดโอกาสให้ผู้ชมได้สัมผัสมิติใหม่ของศิลปะร่วมสมัยที่สะท้อนถึงความหลากหลายทางแนวคิดและแรงบันดาลใจของศิลปิน นี่ไม่ใช่เพียงแค่การจัดแสดงผลงาน แต่เป็นการเดินทางผ่านความซับซ้อนของจิตใจมนุษย์ ที่เปิดให้ผู้ชมได้สำรวจตัวเองไปพร้อมกับศิลปิน
.
Alter Ego เป็นมากกว่านิทรรศการศิลปะ—มันคือบทสนทนาระหว่างตัวตนภายในกับโลกภายนอก เป็นพื้นที่ให้ผู้ชมได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับอัตลักษณ์ของตัวเอง และมองเห็นมุมใหม่ๆ ของความเป็นมนุษย์ที่สะท้อนผ่านงานศิลปะที่ทั้งลึกซึ้งและสร้างสรรค์
.
.
Location: La Lanta, River City Bangkok
Hours: 11:00 – 20:00 น.
รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.facebook.com/RiverCityBangkok/
ขอบคุณรูปภาพจาก: River City Bangkok
.
.
__________
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารให้เราประชาสัมพันธ์ได้ที่ media@arttankgroup.co.th
.
Art Tank Group บริการด้านศิลปะ ครบวงจร
ประมูลศิลปะ ขนส่งและติดตั้งศิลปะ อนุรักษ์งานศิลปะ สื่อและอีเวนท์ศิลปะ
ติดต่อ : 061-626-4241
Comments